top of page

ข้าราชการสาวปวดใจร้อง “ปวีณา” ถูกโรคจิตลวนลามบนรถตู้โดยสาร จับส่งตำรวจแต่ได้รับการปล่อยต

รูปภาพนักเขียน: ทีมงานมูลนิธิปวีณาฯทีมงานมูลนิธิปวีณาฯ

ข้าราชการสาวปวดใจร้อง “ปวีณา” ถูกโรคจิตลวนลามบนรถตู้โดยสาร จับส่งตำรวจแต่ได้รับการปล่อยตัวทั้งที่ประวัติโชกโชน แค่เป็นเพราะไม่ใช่ท้องที่เกิดเหตุ ขอความเป็นธรรมเรียกศักดิ์ศรีคืน และหวั่นเป็นภัยร้ายสำหรับผู้หญิงคนอื่น ไม่รู้ใครจะเป็นเหยื่อรายต่อไป


วันศุกร์ที่ 8 มี.ค.62 น.ส.นก (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี อาชีพรับราชการ ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า เมื่อวันพุธที่ 6 มี.ค.62 ขณะที่ตนเดินทางจากบ้านพักในอ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อจะเข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ โดยนั่งรถตู้โดยสารสายกรุงเทพฯ-ลพบุรี (ปลายทางที่ฟิวเจอร์รังสิต) ขณะที่ขึ้นไปบนรถมีที่นั่งว่างเป็นเบาะคู่ฝั่งขวาหลังสุดตนจึงเดินไปนั่งที่เบาะริมหน้าต่าง ระหว่างทางตนก็หลับเพื่อพักสายตาโดยวางกระเป๋าถือไว้บนตัก นั่งรถมาได้สักพักก็ต้องตกใจสะดุ้งลืมตาขึ้นมาพบว่า มีชายคนหนึ่งมานั่งเบียดอยู่ข้างตนเองแล้วใช้มือล้วงเข้าไปใต้กระเป๋าจับเข้าที่หว่างขาของตน จากนั้นตนจึงได้ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนในรถ ขณะเดียวกันก็มีผู้หญิงคนหนี่งที่นั่งอยู่ด้านหน้าลุกขึ้นมาบอกว่าตนเองก็ถูกกระทำเช่นเดียวกัน แต่ได้ปัดป้องจนชายดังกล่าวลุกขึ้นมานั่งกับตน ซึ่งขณะนั้นตนจำได้ว่ารถตู้วิ่งมาถึงย่านคลองหลวง จ.ปทุมธานีแล้ว


โดยคนขับรถตู้ได้บอกให้ใจเย็นๆ เพราะจะถึงฟิวเจอร์แล้วตรงนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความช่วยเหลือ ซึ่งคนร้ายพยายามที่จะเดินไปเปิดประตูรถเพื่อหลบหนีแต่ผู้โดยสารหลายคนช่วยกั้นไว้ไม่ให้ออกจากรถ ระหว่างนั้นตนก็โทรแจ้งตำรวจด้วย เมื่อถึงท่ารถบริเวณเมเจอร์รังสิตตนกับคนร้ายก็พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ และพากันเดินทางไปที่โรงพัก ตนได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังโดยหวังว่าคนร้ายจะถูกดำเนินคดีเพราะคนร้ายเองก็ให้การรับสารภาพ แต่ปรากฎได้คำตอบว่าให้ตนไปแจ้งความที่สภ.คลองหลวง เพราะเป็นพื้นที่เกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบประวัติคนร้ายพบว่าชื่อ นายสุรเดช แดงน้อย อายุ 44 ปี เป็นชาวจ.ยโสธร มีประวัติเคยถูกดำเนินคดีลักทรัพย์ กระทำอนาจาร และล่วงละเมิดทางเพศบนรถโดยสารรวมถึง 7 คดี แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เหตุซึ่งหน้าจึงต้องปล่อยตัวไปก่อน “ตนรู้สึกคับแค้นใจอย่างบอกไม่ถูก ทำใจไม่ได้ทั้งที่คนร้ายอยู่ตรงหน้ากลับไม่ถูกดำเนินคดี จากนั้นตนก็เดินทางไปแจ้งความที่สภ.คลองหลวง หลังผ่านไป 2 วัน เกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้าจึงตัดสินใจร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับมูลนิธิปวีณาฯ” น.ส.นก กล่าว

หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.สุพิตร โคนพันธ์ ผกก.(สอบสวน) สภ.คลองหลวง รักษาราชการแทน ผกก.สภ.คลองหลวง เพื่อขอให้เร่งสอบปากคำน.ส.นก และรวบรวมหลักฐานออกหมายจับ และจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วเพราะถือเป็นภัยสำหรับผู้หญิงอย่างยิ่ง ล่าสุดตำรวจสภ.คลองหลวง ได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดธัญบุรี เลขที่ 131/2562 ในข้อหา กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ลงวันที่ 14 มี.ค.62


ล่าสุดวันจันทร์ที่ 18 มี.ค.62 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ถนนรังสิต-นครนายก คลอง 7 ธัญบุรี ปทุมธานี น.ส.นก ได้เข้าขอบคุณ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ที่ช่วยติดตามคดีและให้ความเป็นธรรมจนเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับคนร้ายอย่างรวดเร็ว พร้อมกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกระทบกระเทือนจิตใจตนเป็นอย่างมาก ตนยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะไม่ต้องการให้ผู้ต้องหาไปกระทำกับคนอื่นอีก ผู้ต้องหารายนี้ถือเป็นภัยกับผู้หญิงอย่างร้ายกาจ บางคนถูกกระทำและอายไม่กล้าร้องขอความช่วยเหลือหรือแจ้งความ ทำให้ผู้ต้องหาได้ใจก่อเหตุซ้ำอีกเรื่อยๆ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะตนต้องเดินทางโดยสารรถตู้มาทำงานทุกวันตอนนี้ยังรู้สึกหวาดผวาไม่รู้วันไหนจะเจอคนร้ายอีกซึ่งครั้งนี้อาจจะได้รับอันตรายก็ได้ เพราะคนร้ายจำหน้าตนเองได้ อีกทั้งเกรงว่าจะมีผู้หญิงคนอื่นตกเป็นเหยื่ออีกด้วย

ด้าน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องความไม่ปลอดภัยต่อผู้หญิงทุกคน เราไม่ต้องการจะปล่อยคนชั่วให้ลอยนวล ต้องจับกุมตัวมาดำเนินคดี คนทำผิดต้องได้รับบทลงโทษ เพราะถ้าปล่อยให้ลอยนวลเขาก็จะไปกระทำต่อไปเรื่อยๆ ถือว่าเป็นภัยสังคมอย่างยิ่ง และต้องขอบคุณผู้เสียหายเช่นกันที่กล้าหาญลุกขึ้นมาต่อสู้กับสิ่งที่ผิดกฎหมาย อยากให้ผู้หญิงทุกคนลุกขึ้นมาต่อสู้อะไรที่เราถูกกระทำ เราต้องสู้เพื่อศักดิ์ศรี เพื่อความถูกต้อง

Komentáře


bottom of page