ทีมงานมูลนิธิปวีณาฯ11 เม.ย. 2560ยาว 1 นาทีนักเรียน ร.ร.ธัญรัตน์ เล่นดนตรีเปิดหมวกรับบริจาค เพื่อนำเงินสมทบทุนการดำเนินงานช่วยเหลือสังคมของมูลนอัปเดตเมื่อ 14 ก.ย. 2565“ลุงเขย” ข่มขืน ซ้ำร้ายลูกพี่ลูกน้องเด็กหญิง 5 ขวบ 8 ขวบ และ 10 ขวบข่มขืน,อนาจาร, ครูสุรินทร์ร้อง “ปวีณา” นักเรียนหญิง ป.4 ซึมเศร้าถูก “ลุงเขย” ข่มขืน ซ้ำร้ายลูกพี่ลูกน้องเด็กหญิง 5 ขวบ 8 ขวบ และ 10 ขวบ ที่อาศัยอยู่รวมกันก็โดนอนาจาร จับหน้าอก ใช้นิ้วสอดใส่ด้วย เมื่อวันพุธที่ 31 ม.ค.61 ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ แจ้งสายด่วน 1134 มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีว่า เด็กหญิงเอ (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 อาศัยอยู่กับป้าและลุงเขย มักขาดเรียนบ่อยเมื่อมาโรงเรียนก็มีอาการซึมเศร้า ครูจึงสอบถามเด็กได้ร้องไห้และเล่าว่า ตนเองถูกลุงเขยข่มขืนกระทำชำเราตอนที่ป้าไม่อยู่ นอกจากนี้ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นเด็กผู้หญิงอายุระหว่าง 5 ขวบ 8 ขวบ และ 10 ขวบ ที่อาศัยอยู่ด้วยกันอีก 3 คน ก็ถูกลุงเขยทำอนาจารจับหน้าอก เอานิ้วสอดใส่ในอวัยวะเพศ และพยายามล่วงละเมิดทางเพศด้วย จึงได้แจ้งเรื่องนี้ให้กับป้าซึ่งเป็นผู้ปกครองของเด็กทราบและพาเข้าเด็กๆ แจ้งความแล้วที่ สภ.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ แต่เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ หลังรับเรื่องนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.สนม อุไรรักษ์ ผกก.สภ.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ และนายทรงศักดิ์ จินะกาศ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ ลงพื้นที่บ้านของเด็กเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งมนช่วยเหลือเด็ก ต่อมาได้ส่งตัวเด็กหญิงเอและลูกพี่ลูกน้องอีก 3 คน ตรวจร่างกาย พร้อมสอบสหวิชาชีพ ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับและดำเนินการจับกุมลุงเขยมาดำเนินคดี โดยฝากขังศาลและควบคุมตัวไปขังที่เรือนจำจังหวัดสุรินทร์แล้ว โดยมูลนิธิปวีณาฯ ได้ติดตามความคืบหน้าของคดีโดยประสาน พ.ต.อ.สนม อุไรรักษ์ ผกก.สภ.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ จนจับกุมลุงเขยมาดำเนินคดีได้ และจะติดตามให้ความเป็นธรรมอย่างต่อเนื่อง พร้อม ประสาน นายทรงศักดิ์ จินะกาศ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ ให้การช่วยเหลือครอบครัวมอบเงินสงเคราะห์จำนวนหนึ่ง เบื้องต้นพ่อแม่ของเด็กทั้งหมดยืนยันสามารถให้การอุปการะเลี้ยงดูลูกได้ โดยผู้ใหญ่บ้าน และโรงเรียนจะเป็นผู้ดูแลเด็กอีกทางหนึ่ง และทางโรงพยาบาลปราสาทช่วยให้คำปรึกษาฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กๆ และคนในครอบครัว ทั้งนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการให้ความช่วยเหลือต่อไป
“ลุงเขย” ข่มขืน ซ้ำร้ายลูกพี่ลูกน้องเด็กหญิง 5 ขวบ 8 ขวบ และ 10 ขวบข่มขืน,อนาจาร, ครูสุรินทร์ร้อง “ปวีณา” นักเรียนหญิง ป.4 ซึมเศร้าถูก “ลุงเขย” ข่มขืน ซ้ำร้ายลูกพี่ลูกน้องเด็กหญิง 5 ขวบ 8 ขวบ และ 10 ขวบ ที่อาศัยอยู่รวมกันก็โดนอนาจาร จับหน้าอก ใช้นิ้วสอดใส่ด้วย เมื่อวันพุธที่ 31 ม.ค.61 ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ แจ้งสายด่วน 1134 มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีว่า เด็กหญิงเอ (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 อาศัยอยู่กับป้าและลุงเขย มักขาดเรียนบ่อยเมื่อมาโรงเรียนก็มีอาการซึมเศร้า ครูจึงสอบถามเด็กได้ร้องไห้และเล่าว่า ตนเองถูกลุงเขยข่มขืนกระทำชำเราตอนที่ป้าไม่อยู่ นอกจากนี้ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นเด็กผู้หญิงอายุระหว่าง 5 ขวบ 8 ขวบ และ 10 ขวบ ที่อาศัยอยู่ด้วยกันอีก 3 คน ก็ถูกลุงเขยทำอนาจารจับหน้าอก เอานิ้วสอดใส่ในอวัยวะเพศ และพยายามล่วงละเมิดทางเพศด้วย จึงได้แจ้งเรื่องนี้ให้กับป้าซึ่งเป็นผู้ปกครองของเด็กทราบและพาเข้าเด็กๆ แจ้งความแล้วที่ สภ.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ แต่เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ หลังรับเรื่องนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.สนม อุไรรักษ์ ผกก.สภ.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ และนายทรงศักดิ์ จินะกาศ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ ลงพื้นที่บ้านของเด็กเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งมนช่วยเหลือเด็ก ต่อมาได้ส่งตัวเด็กหญิงเอและลูกพี่ลูกน้องอีก 3 คน ตรวจร่างกาย พร้อมสอบสหวิชาชีพ ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับและดำเนินการจับกุมลุงเขยมาดำเนินคดี โดยฝากขังศาลและควบคุมตัวไปขังที่เรือนจำจังหวัดสุรินทร์แล้ว โดยมูลนิธิปวีณาฯ ได้ติดตามความคืบหน้าของคดีโดยประสาน พ.ต.อ.สนม อุไรรักษ์ ผกก.สภ.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ จนจับกุมลุงเขยมาดำเนินคดีได้ และจะติดตามให้ความเป็นธรรมอย่างต่อเนื่อง พร้อม ประสาน นายทรงศักดิ์ จินะกาศ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ ให้การช่วยเหลือครอบครัวมอบเงินสงเคราะห์จำนวนหนึ่ง เบื้องต้นพ่อแม่ของเด็กทั้งหมดยืนยันสามารถให้การอุปการะเลี้ยงดูลูกได้ โดยผู้ใหญ่บ้าน และโรงเรียนจะเป็นผู้ดูแลเด็กอีกทางหนึ่ง และทางโรงพยาบาลปราสาทช่วยให้คำปรึกษาฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กๆ และคนในครอบครัว ทั้งนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการให้ความช่วยเหลือต่อไป