“ปวีณา” ประสานตำรวจ บ้านพักเด็กฯ กระทรวงพม. ช่วยเด็ก 2 ขวบ รวดเร็วปลอดภัย หลังชาวเน็ตพลเ

“ปวีณา” ประสานตำรวจ บ้านพักเด็กฯ กระทรวงพม. ช่วยเด็ก 2 ขวบ รวดเร็วปลอดภัย หลังชาวเน็ตพลเมืองดีแห่แชร์คลิปพ่อรัดคอลูกในโซเชียลมาขอความช่วยเหลือ หวั่นเด็กน้อยเป็นอันตราย

วันเสาร์ที่ 15 ก.พ.63 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปชายคนหนึ่งกำลังอุ้มเด็กน้อยอายุประมาณ 2 ขวบ อยู่บนตักและใช้สายสะพายกระเป๋ารัดคอเด็ก โดยเด็กคนดังกล่าวร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวและพยายามใช้มือดึงสายสะพายกระเป๋าที่ลำคอออก พร้อมระบุว่า บอกหน่อย ผมควรทำอย่างไรกับลูกเขยคนนี้…? หลังโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปมีชาวเน็ตพลเมืองดีแจ้งมายังมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบและช่วยเหลือเด็กคนดังกล่าวจำนวนมาก

ระหว่างนั้นทางมูลนิธิปวีณาฯ ได้ข้อมูลที่พลเมืองดีแจ้งเบาะแสเข้ามาภายหลังว่าที่เกิดเหตุจริงๆ แล้วอยู่ในพื้นที่ต.วังประจบ อ.เมือง จ.ตาก นางปวีณา จึงได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.ปริญญา วิศิษฐฏากุล ผบก.ภ.จว.ตาก และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตาก ลงพื้นที่ตรวจสอบ โดย พล.ต.ต.ปริญญา ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.แมน รัตนประทีป ผกก.สภ.วังประจบ จ.ตาก ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.วังประจบ ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ พบชายที่ถ่ายคลิปกับเด็กชาย 2 คน อายุ 3 ขวบ กับ 2 ขวบ อยู่ในบ้านพัก สอบถามทราบว่าทั้งหมดเป็นพ่อลูกกัน เจ้าหน้าที่จึงนำตัวชายดังกล่าวกับลูกชาย 2 คน เดินทางมาที่สภ.วังประจบ

จากการสอบถามพ่อเด็กยอมรับว่า เรื่องเกิดขึ้นตอนประมาณตี 4 ของวันที่ 15 ก.พ. ได้โทรคุยกับภรรยาที่ไปทำงานอยู่ประเทศดูไบ ซึ่งภรรยาบอกว่าต้องการจะเลิกกับตนเอง จึงโมโหนำลูกชายคนเล็กวัย 2 ขวบ มานั่งตักก่อนจะใช้สายสะพายกระเป๋าทำท่ารัดคอและถ่ายคลิป แต่ไม่ได้รัดคอจริงๆ จากนั้นก็ส่งคลิปไปให้ภรรยาดูเพื่อข่มขู่เท่านั้น จากนั้นภรรยาก็ส่งคลิปไปให้พ่อตา และพ่อตาได้โพสต์เฟซบุ๊กจนมีการแชร์กันออกไป

เบื้องต้นตำรวจได้ร้องทุกข์กล่าวโทษพ่อเด็กในความผิดฐาน 1.ทำร้ายร่างกาย 2.พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว 3.พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ในมาตรา 26(55) ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการ ดังต่อไปนี้ บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม ยินยอม หรือกระทำด้วยประการใดให้เด็กไปเป็นขอทาน เด็กเร่ร่อน หรือใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการขอทานหรือการกระทำผิด หรือกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก และ4. พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก มาตรา 27 ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาหรือเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือสื่อสารสนเทศประเภทใด ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็กหรือผู้ปกครอง โดยเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่จิตใจ ชื่อเสียง เกียรติคุณ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดของเด็กหรือเพื่อแสวงหาประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ ก่อนจะปล่อยตัวไป

ซึ่งจากการตรวจร่างกายเด็กที่โรงพยาบาลเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย แต่ยังต้องรอผลตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง และเจ้าหน้าที่จะต้องมีการสืบเสาะความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับเด็กและเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนจะเรียกตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาภายหลัง ซึ่งเท่าที่ดูเด็กทั้ง 2 คน ไม่ได้มีอาการหวาดกลัวพ่อแต่อย่างใด แถมเด็ก 2 ขวบ ยังติดพ่อนั่งกอดและนอนตักพ่อตลอดเวลา จะไม่ยอมให้พ่อไปไหน ซึ่งในส่วนของผู้ใหญ่บ้านก็ให้ข้อมูลว่าพ่อเด็กไม่ใช่คนใจคอโหดร้ายอะไร แต่ภาพจากคลิปมันดูรุนแรงซึ่งคนทำก็ไม่คิดถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา

นอกจากนี้ พ.ต.อ.แมน รัตนประทีป ผกก.สภ.วังประจบ จ.ตาก ได้มีการแชทคุยทางเฟซบุ๊กกับแม่เด็กที่ทำงานอยู่ประเทศดูไบ จึงทราบว่าตอนนี้ถึงจะเป็นห่วงลูกแต่ก็ยังกลับเมืองไทยไม่ได้เนื่องจากติดขัดปัญหาเรื่องค่าตั๋วเครื่องบิน ทางพ.ต.อ.แมน จึงได้มอบเงินส่วนตัวพร้อมทั้งระดมทุนจากกลุ่มเพื่อนก่อนโอนค่าตั๋วเครื่องบินไปให้แม่เด็ก จากนั้นแม่เด็กได้ซื้อตั๋วเครื่องบินและเตรียมตัวเดินทางกลับมาบ้านเกิดในวันจันทร์ที่ 17 ก.พ.นี้ โดยทาง พ.ต.อ.แมน จะได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.วังประจบ ไปรับตัวที่สนามบินก่อนพาไปพบลูกชายที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตาก หลังจากนั้นเจ้าหน้าจะมีการประเมินความพร้อมว่าเด็กควรจะอยู่ในความดูแลของใครต่อไป

โดยนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน นายประทีป มูลเพา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตาก ส่งเจ้าหน้ามาสืบเสาะข้อเท็จจริงร่วมกับทางบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตาก เพื่อทำรายงานส่งให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับพ่อเด็ก และร่วมประเมินความพร้อมผู้ที่จะรับเด็กไปดูแล

อย่างไรก็ตาม มูลนิธิปวีณาฯ จะได้ติดตามความคืบหน้าและประสานการช่วยเหลือกับ พ.ต.อ.แมน รัตนประทีป ผกก.สภ.วังประจบ จ.ตาก นายประทีป มูลเพา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตาก และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตากต่อไป