“ปวีณา” พา “แม่น้องน้ำ” ไปศาลอาญาเพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีนายจ้างฆ่าฝังดินน้องน้ำ 5 ปี อำพรางค

“ปวีณา” พา “แม่น้องน้ำ” ไปศาลอาญาเพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีนายจ้างฆ่าฝังดินน้องน้ำ 5 ปี อำพรางคดี โดยมีตำรวจกองปราบดูแลความปลอดภัย แต่ศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาเพราะเพื่อนคนสนิท “โมนา” จำเลยที่ 2 ไม่มาศาล จึงให้ออกหมายจับ และปรับนายประกัน

วันนี้ (27 ส.ค.) เวลา 09.30 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาฯ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้พา นางจันทิรา ศรีศักดิ์ แม่ของน้องน้ำ หรือ น.ส.จริยา ศรีศักดิ์ อายุ 15 ปีเศษ (อายุขณะเกิดเหตุ) ที่ถูกนายจ้างฆ่าแล้วฝังดินอำพรางนาน 5 ปี และแม่ของน้องน้ำได้ขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ประสานตำรวจกองปราบขุดบริเวณที่ต้องสงสัยว่าฝังศพลูกสาวที่ใต้ต้นตาลในไร่ ต.หนองโสน อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี จนพบเจอโครงกระดูกเมื่อช่วงปี 2560 เดินทางไปฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม 3 นาย ติดตามดูแลความปลอดภัย

โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษา เมื่อวันที่ 20 ก.พ.62 ให้จำคุก น.ส.กฤษณา หรือ โมนา สุวรรณพิทักษ์ (นายจ้าง) จำเลยที่ 1 ตลอดชีวิต และให้ชดใช้ค่าสินไหม ให้มารดาของผู้ตายเป็นเงินกว่า 1.06 ล้านบาท, น.ส.ปรารถนา หรือเม้า ท้วมทรัพย์ จำเลยที่ 2 สั่งจำคุก 1 ปี 4 เดือน และนายปราโมทย์ สุวรรณพิทักษ์ จำเลยที่ 3 สั่งจำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา

ในวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัว น.ส.กฤษณา หรือ โมนา มาจากทัณฑสถานหญิงกลาง ด้วยใบหน้าเรียบเฉย ส่วนนายปราโมทย์ จำเลยที่ 3 ได้รับการประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดี เดินทางมาฟังคำพิพากษา ขณะที่น.ส.ปรารถนา จำเลยที่ 2 ซึ่งได้ประกันตัวไม่ได้เดินทางมาศาล

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นัดอ่านคำพิพากษาในวันนี้ น.ส. ปรารถนา จำเลยที่ 2 ทราบนัดโดยชอบแล้ว ปรากฎว่าไม่มาศาล จึงให้ออกหมายจับจำเลยที่ 2 เพื่อมาฟังคำพิพากษาและปรับนายประกัน พร้อมเลื่อนไปอ่าน คำพิพากษา วันที่ 6 ต.ค.นี้ เวลา 09.30 น.

ภายหลัง นางปวีณา กล่าวว่า ศาลได้เลื่อนไปอ่านอุทธรณ์ในวันที่ 6 ต.ค.นี้ เนื่องจากจำเลยที่ 2 ไม่มาฟังคำพิพากษา ส่วนวันนี้ก็ได้พามารดาน้องน้ำมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เนื่องจากแม่น้องน้ำมีความกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัย และต้องการเป็นกำลังใจให้แม่น้องน้ำด้วย ซึ่งเหตุการณ์ที่ศาลในวันนี้ก็เรียบร้อยดี

ด้าน นางจันทิรา ศรีศักดิ์ มารดาน้องน้ำ บุตรสาวที่เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเองรู้สึกกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัยมาตลอดจากการที่อยู่ในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ส่วนคดีนี้ตนยังรู้สึกเสียใจที่ลูกสาวเสียชีวิต แต่ก็พอใจตั้งแต่คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้จำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ตลอดชีวิต และมีมูลนิธิปวีณาฯคอยให้การช่วยเหลือดูแลเรื่องต่างๆ.