พลเมืองดีร้อง “ปวีณา” พบคุณยายวัย 79 ปี ถูกลูกสาวขังให้อยู่แต่ในห้องคอนโดฯ เมื่อไม่พอใจก็ดุด่าหยาบคาย พูดมึงกูกับแม่ ใช้มือเขกหัว ใช้เท้าถีบ และขู่จะฆ่าให้ตาย เห็นคุณยายร้องขอความช่วยเหลือเป็นที่น่าเวทนา “ปวีณา” ประสาน พ.ต.อ.รุ่งสกุล บุญกระพือ ผกก.สน.ลาดพร้าว นายสนองวิชญ์ ภูวันทมาตย์ ผอ.ศูนย์ช่วยเหลือสังคม นางสาวกนกวรรณ เหลืองมงคลเลิศ ผอ.ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว นักสังคมสงเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ช่วยเหลือรับตัวไปดูแล

วันอังคารที่ 19 ต.ค.63 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ประสาน พ.ต.อ.รุ่งสกุล บุญกระพือ ผกก.สน.ลาดพร้าว นายสนองวิชญ์ ภูวันทมาตย์ ผอ.ศูนย์ช่วยเหลือสังคม นางสาวกนกวรรณ เหลืองมงคลเลิศ ผอ.ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว นักสังคมสงเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนัดประชุมที่สน.ลาดพร้าว เพื่อช่วยเหลือคุณยายวัย 79 ปี ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว กรุงเทพฯ ซึ่งพลเมืองดีแจ้งว่าคุณยายถูกลูกสาวกักขังทุบตีทำร้ายร่างกายด่าหยาบคาย ขู่จะฆ่าให้ตาย เพื่อให้การช่วยเหลือเร่งด่วน

ภายหลังการประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ลาดพร้าว พร้อมทีมงานทั้งหมดได้ร่วมกันลงพื้นที่คอนโดฯ ดังกล่าว พบคุณยายถูกขังอยู่ในห้องพักซึ่งถูกล็อคกุญแจจากด้านนอกร้องขอความช่วยเหลือให้พาออกไปด้านนอก ส่วนลูกสาวก็อยู่ห้องติดกัน อ้างว่าจำเป็นที่ต้องขังแม่ไว้เนื่องจากแม่มีอาการหลงลืมเกรงว่าปล่อยออกไปข้างนอกจะหลงหายไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้พาคุณยายเดินทางมาที่สน.ลาดพร้าวเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง และแจ้งให้ลูกสาวคุณยายติดตามไปพบเจ้าหน้าที่ี่ตำรวจที่สน.ลาดพร้าว

จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมสหวิชาชีพของกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ได้มีการซักถามคุณยาย ซึ่งคุณยายก็พูดจารู้เรื่อง บอกว่าถูกลูกสาวทำร้ายโดยการใช้มือเขกหัว และใช้เท้าถีบ แต่ไม่อยากดำเนินคดีเพราะลูกก็คือลูก ด้านนางปวีณา ได้ถามคุณยายว่า อยากกลับไปอยู่กับลูกหรืออยู่กับใคร ซึ่งคุณยายตอบว่า ไม่อยากไปอยู่กับลูกแล้ว นางปวีณา จึงได้บอกว่า ทางเจ้าหน้าที่มีความพร้อมที่จะพาไปอยู่บ้านบางแค ซึ่งทางคุณยายก็ดีใจและสมัครใจอยากไปอยู่

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่พม.จะได้รับตัวเข้าไปดูแลโดยจะต้องไปกักตัวตามมาตรการป้องกันโควิดที่บ้านมิตรไมตรีก่อนเป็นเวลา 14 วัน จากนั้นจะรับไปพักที่บ้านบางแค ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานไว้ก่อน

ต่อมาลูกสาวของคุณยายได้เดินทางมาที่สน.ลาดพร้าว โดยให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยอมรับว่าที่ผ่านมา ก็ได้มีการต่อว่าดุด่าเสียงดังกับคุณยายบ้าง และเคยขู่จะฆ่าให้ตายจริง แต่เป็นการพูดไปด้วยอารมณ์ไม่เคยคิดจะทำอย่างนั้น เนื่องจากที่ผ่านมามีความเครียดหลายอย่างเพราะได้รับผลกระทบจากโควิด เมื่อไม่นานมานี้ก็ถูกยึดบ้าน และต้องดิ้นรนทำงานหาเงิน จึงทำให้มีอารมณ์โมโหเวลาที่แม่ดื้อและทำข้าวของเสียหาย

โดย นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้กล่าวเตือนสติลูกสาวของคุณยายถึงการกระทำดังกล่าวที่ไม่ถูกต้อง จากนี้ทางพม.จะรับคุณยายไปดูแลก่อนซึ่งทางญาติสามารถไปเยี่ยมไปหาได้ และควรใช้ช่วงเวลานี้ในการปรับความเข้าใจกัน หากทางลูกๆ ของคุณยายมีความพร้อมที่จะรับคุณยายกลับไปดูแล เจ้าหน้าที่พม.จะทำการประเมินอีกครั้ง ซึ่งมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือร่วมกับพม.ต่อไป.



Comments