ยายช้ำ!! ลูกสาวติดยาหนักมีลูกสาว 3 คน อายุ 12 ขวบ 9 ขวบ และ 3 ขวบ วันๆ ไม่ทำมาหากิน พาลูกสาวคนโตไปตระเวนมั่วสุมเสพยาตามบ้านเพื่อน หลังยายไปติดตามตัวหลานกลับมาได้จึงพาไปฝากญาติเลี้ยงดู แต่ลูกสาวก็ยังไม่หยุดพฤติกรรมกลับมาพาหลาน 9 ขวบ กับ 3 ขวบ หนีไปอีกหวั่นเด็กๆ เป็นอันตราย ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือ
วันศุกร์ที่ 26 มิ.ย.63 นางสายใจ (นามสมมุติ) อายุ 54 ปี ชาวจ.สกลนคร เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า นางแพรว (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี ลูกสาว อาศัยอยู่กับยายที่เป็นอัมพฤกษ์ในพื้นที่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี มีอาการติดยาหนัก ชอบทุบตียาย ขโมยเงินไปซื้อยาเสพติด และไม่สนใจเลี้ยงดูลูกสาว 3 คน ประกอบด้วย ด.ญ.หนึ่ง อายุ 12 ปี ด.ญ.สอง อายุ 9 ปี และด.ญ.สาม อายุ 3 ปี (ทั้งหมดนามสมมุติ) เด็กๆ ไม่ค่อยได้ไปเรียนหนังสือเพราะแม่เอาเงินไปซื้อยาเสพติดหมด ล่าสุดวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนไปเยี่ยมที่บ้านก็พบว่านางแพรว พาด.ญ.หนึ่งหายออกจากบ้านไป และรู้ข่าวจากชาวบ้านว่านางแพรวมักจะพาด.ญ.หนึ่งไปเป็นประจำโดยพาไปมั่วสุมบ้านผู้ชายที่เสพยาอยู่ด้วยกัน

นางสายใจ กล่าวอีกว่า จากนั้นตนก็ไปตามหาด.ญ.หนึ่ง จนพบว่าอยู่ที่บ้านเพื่อนของนางแพรวที่อยู่หมู่บ้านใกล้กัน ก่อนจะนำตัวกลับมาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น แต่หลานสาวก็ไม่ค่อยบอกอะไรเพราะกลัวแม่จะถูกตำรวจจับ ตนเกรงว่าหากปล่อยไปแบบนี้สักวันด.ญ.หนึ่งอาจจะเป็นอันตราย จึงได้พาไปอยู่กับยายซึ่งเป็นน้องสาวของตน แต่พอด.ญ.หนึ่งไม่อยู่กลับกลายเป็นว่านางแพรวมาพาลูกสาวอีก 2 คน คือ ด.ญ.สอง อายุ 9 ปี และด.ญ.สาม อายุ 3 ปี ไปตระเวนตามบ้านเพื่อนผู้ชายเพื่อมั่วสุมเสพยาซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ตนเกรงว่าหลานจะเป็นอันตรายจึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ ให้ช่วยเหลือเด็กๆ ด้วย
หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.นวกฤต นวการพาณิชย์ ผกก.สภ.บ้านม่วง จ.สกลนคร และนางวาริน วีระสุนทร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสกลนคร เพื่อให้นางสายใจ พาด.ญ.หนึ่ง หลานสาววัย 12 ปี เข้าแจ้งความ และช่วยส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ สกลนคร ลงพื้นที่ติดตามช่วยเหลือด.ญ.สองและด.ญ.สามทันที

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ สกลนคร ได้ใช้ความพยายามในการตามหาจนพบเด็กทั้ง 2 คน ถูกนางแพรวนำไปอยู่ที่บ้านของเพื่อนชายที่มั่วสุมเสพยา จึงได้นำตัวนางแพรวและด.ญ.สอง กับด.ญ.สาม มาที่สภ.บ้านม่วง และให้นางสายใจกับด.ญ.หนึ่ง มาพบกับ ด.ญ.สอง และด.ญ.สามที่โรงพัก จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจปัสสาวะนางแพรวเพื่อหาสารเสพติดพบว่าปัสสาวะมีสีม่วง ซึ่งนางแพรวก็ได้สารภาพว่า เพิ่งเสพยาบ้ามาเมื่อวันก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินคดีข้อหา เสพยาเสพติด
ขณะที่เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ สกลนคร ได้ทำการแยกเด็กโดยรับตัวด.ญ.หนึ่ง ด.ญ.สอง และด.ญ.สาม อยู่ในความคุ้มครอง เนื่องจากนางสายใจและยายทวดที่เป็นอัมพฤกษ์ไม่พร้อมที่จะดูแลเด็กหญิงทั้ง 3 คน ซึ่งจากนี้ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ จะได้ประสาน นายธีร์ ภวังคนันท์ ผอ.สำนักอำนวยการ สพฐ. และ ดร.ชนะ สุ่มมาตย์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน สพฐ. ให้ช่วยย้ายเด็กหญิง 3 พี่น้องไปอยู่โรงเรียนประจำเพื่อให้ได้รับการศึกษา และมูลนิธิปวีณาฯ จะประสานติดตามความช่วยเหลือกับทางบ้านพักเด็กฯ สกลนครต่อไป
Comentários