top of page
รูปภาพนักเขียนทีมงานมูลนิธิปวีณาฯ

แม่พาลูกสาวป่วยจิตเดินเท้าไกลหลายกิโลเมตร เข้าร้องทุกข์ “ปวีณา” หลังถูกพ่อเลี้ยงหื่น!! ข่มขืนจนเสียส

แม่พาลูกสาวป่วยจิตเดินเท้าไกลหลายกิโลเมตร เข้าร้องทุกข์ “ปวีณา” หลังถูกพ่อเลี้ยงหื่น!! ข่มขืนจนเสียสติ ก่อนหน้านี้เคยจับได้พ่อเลี้ยงขอโอกาสกลับตัวอย่าดำเนินคดี แต่เวลาผ่านไปเห็นลูกสาวอาการหนักขึ้นบางครั้งกรีดข้อมือ ไม่พูดจากลับใครเพราะกลัวระแวงพ่อเลี้ยงข่มขืน หวั่นปล่อยไว้จะเป็นภัยกับลูกสาวอีก

วันจันทร์ที่ 28 มิ.ย.63 นางน้อย (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี พาน.ส.หนิง (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ลูกสาวซึ่งมีอาการเหม่อลอยบางครั้งก็พูดคนเดียว เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี โดยนางน้อย แจ้งว่า น.ส.หนิงถูกนายหนึ่ง (นามสมมุติ) พ่อเลี้ยง อายุ 27 ปี ข่มขืนตั้งแต่ปี 60-62 ซึ่งตอนนั้นตนไม่เคยรู้มาก่อนกระทั่งมาสังเกตเห็นลูกมีอาการผิดปกติช่วงเดือนมี.ค.62 จึงได้สอบถามและลูกสาวเล่าว่า เวลาแม่ไปทำงานนายหนึ่งจะเรียกเข้าไปในห้องนอนและให้ดูหนังโป๊ในมือถือก่อนที่จะลงมือข่มขืน อีกทั้งยังข่มขู่ไม่ให้บอกใคร


นางน้อย เล่าอีกว่า หลังรู้เรื่องตนจึงได้ถามความจริงจากนายหนึ่ง สามีที่อยู่กินกันมานานกว่า 10 ปี นายหนึ่งก็ยอมรับว่าได้ข่มขืนน.ส.หนิงหลายครั้งแล้ว ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ขอให้ตนให้อภัยและขอเวลาปรับปรุงตัวจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ด้วยความเห็นใจตนจึงให้โอกาสนายหนึ่งกลับตัวโดยที่ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีและยังอยู่กินกันเรื่อยมา จากนั้นได้ส่งน.ส.หนึ่งไปอยู่กับยายเพื่อเรียนหนังสือต่อ ระยะหลังทราบจากยายว่าลูกมักจะมีอาการเหม่อลอย บางครั้งก็พูดคนเดียว ทำให้ตนเป็นห่วงมากจนปิดเทอมเมื่อเดือนมี.ค.63 ตนจึงไปรับลูกมาอยู่ด้วย วันหนึ่งเห็นลูกใช้มีดกรีดข้อมือทำร้ายตัวเอง และมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัดไม่พูดจากับใคร คาดว่าลูกอาจจะเกรงกลัวนายหนึ่งจะข่มขืนอีกจนมีอาการทางจิต ตนจึงพาไปพบแพทย์ที่รพ.ศรีธัญญา เพื่อรักษา ซึ่งตนเองก็ไม่รู้จะแก้ปัญหานี้อย่างไร จะเลิกกับนายหนึ่งก็กลัวว่าจะไม่มีที่อยู่เพราะตนมีฐานะยากจนและที่ผ่านมาก็ตกงานเพราะพิษโควิด-19 ไม่มีแม้เงินค่ารถที่เดินทางมามูลนิธิปวีณาฯ ต้องพาลูกเดินเท้ามาจากบ้านย่านคลอง 11 รังสิต-นครนายก ปทุมธานี ไกลหลายกิโลเมตร โชคดีที่ระหว่างทางมีพลเมืองดีสงสารช่วยค่ารถให้มาถึง ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือตนกับลูกด้วย

หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ก่อนจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาสองแม่ลูกเข้าแจ้งความ และทางพนักงานสอบสวนสภ.ธัญบุรี ได้ทำหนังสือส่งตัวน.ส.หนึ่งไปตรวจร่างกายที่รพ.ตำรวจ ปรากฎพบมีร่องรอยข่มขืน เยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาด ก่อนจะนัดสอบปากคำน.ส.หนิงโดยสหวิชาชีพ จากนั้นพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับนายหนึ่งในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 13 ปี และข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุกว่า 13 ปี แต่ไม่เกิน 15 ปี


ต่อมาวันพุธที่ 1 ก.ค.63 พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสภ.ธัญบุรี ไปจับกุมตัวนายหนึ่งมาทำการสอบสวน ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีพร้อมควบคุมตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดธัญบุรีเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย


ทั้งนี้ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ยังได้ประสาน นายพิทักษ์ บุญฤทธิ์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี รับตัวนางน้อย และน.ส.หนิง สองแม่ลูกเข้าอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กฯ ปทุมธานี เนื่องจากหลังมีการแจ้งจับพ่อเลี้ยงทางญาติของพ่อเลี้ยงได้ให้สองแม่ลูกย้ายออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่น ขณะเดียวกันนางปวีณา ยังได้ประสานทางเจ้านายของนางน้อยเพื่อขอให้จัดการเรื่องลูกสาวให้เรียบร้อยก่อนจะกลับไปทำงานซึ่งทางเจ้านายก็ยินดี จากนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะได้ติดตามการช่วยเหลือสองแม่ลูกร่วมกับบ้านพักเด็กฯ ปทุมธานี ในเรื่องการรักษาและฟื้นฟูสภาพจิตใจน.ส.หนิง และหาบ้านพักให้สองแม่ลูกที่อยู่ใกล้โรงเรียนของน.ส.หนิง เพื่อแม่จะได้ดูแลลูกอย่างใกล้ชิดต่อไป.

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังนั่ง

ดู 0 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page