แม่เครียดจูงลูกสาววัย 13 ปี ม.2 ร้อง “ปวีณา” ถูกเด็กนักเรียนชาย 5 คน มีหัวโจกของห้องอายุ 17 ปี ฉุดลากไปล่วงละเมิดทางเพศหลังห้องเรียนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนเรียก 2 ฝ่าย เคลียร์กันให้นำพวงมาลัยดอกไม้ขอขมา ก่อนทำบันทึกข้อตกลง 5 นักเรียนชายสารภาพ โรงเรียนได้ทำบันทึกชัดเจนเด็กชาย 5 คน ล่วงละเมิดทางเพศ ให้พ่อแม่เด็กชายเซ็น และให้พี่สาวเซ็นว่าจะไม่ดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญากับเด็ก 5 คน แม่นักเรียนหญิงไม่ยอม ร้อง “ปวีณา” ให้ช่วยพาเข้าแจ้งความ ขอความเป็นธรรมกับลูกสาว
วันอังคารที่ 3 พ.ย.63 ที่ สน.บางยี่ขัน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเด็กและสตรี ได้พานางมิ่ง และด.ญ.มุ่ย (ทั้งสองนามสมมุติ) อายุ 13 ปี ลูกสาวซึ่งเป็นนักเรียนม.2 โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งย่านปิ่นเกล้า กรุงเทพฯ ไปพบ พ.ต.อ.เฉลิมศักดิ์ สุขสำราญ รองผบก.น.7 รรท.ผกก.สน.บางยี่ขัน และพ.ต.อ.ฤทธิชัย ช่างคำ ผกก.สอบสวน บก.น.7 เพื่อให้สองแม่ลูกแจ้งความกรณี ด.ญ.มุ่ย ถูกเพื่อนนักเรียนชาย 5 คน ที่เรียนอยู่ห้องเดียวกันล่วงละเมิดทางเพศภายในห้องเรียนคอมพิวเตอร์ของโรงเรียน
ต่อมาด.ญ.มุ่ย กับเพื่อนสนิทพากันไปแจ้งเรื่องกับครูฝ่ายปกครองให้ทราบ ครูจึงเรียกนักเรียนชายทั้ง 5 คน มาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมเรียกผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่ายมารับทราบเรื่อง ซึ่งนักเรียนชายทั้ง 5 คน ให้การรับสารภาพ
นางมิ่ง กล่าวว่า นักเรียนชายทั้ง 5 คน กระทำการล่วงละเมิดทางเพศโดยไม่เกรงกลัวครู และเพื่อนนักเรียนที่อยู่ในห้องร่วม 30 คน เห็นว่าด.ญ.มุ่ย ตัวเล็กที่สุดในห้องคงจะไม่มีเรี่ยวแรงและไม่กล้าขัดขืน
กระทั่งวันที่ 28 ต.ค.63 โรงเรียนได้นัดผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่ายไปเจรจากัน โรงเรียนได้เตรียมบันทึกข้อตกลงที่มีข้อความระบุว่า นักเรียนชายทั้ง 5 คน ให้การรับสารภาพ และฝ่ายนักเรียนชายพร้อมผู้ปกครอง 5 ครอบครัวจะนำพวงมาลัยดอกไม้มากราบขอขมาแม่ของด.ญ.มุ่ย แลกกับการไม่ดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญา ส่วนทางโรงเรียนจะทำการหักคะแนนความประพฤตินักเรียนชายทั้ง 5 คน คนละ 35 คะแนน พร้อมทำทัณฑ์บนหากมีการกระทำความผิดเพิ่มเติมโรงเรียนจะดำเนินการย้ายสถานศึกษา โดยพี่สาวของด.ญ.มุ่ย ต้องจำยอมเซ็นชื่อรับทราบเรื่องดังกล่าวด้วย แม่เด็กนักเรียนเครียดและลูกมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่จึงตัดสินใจมาขอให้มูลนิธิปวีณาฯ พาแจ้งความ ขอความเป็นธรรมและจะได้ไม่เกิดเรื่องเลวร้ายกับนักเรียนหญิงคนอื่นอีก
นางปวีณา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ของสังคมบ้านเราในปัจจุบัน ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องมีมาตราการป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง มิใช่ปกปิดปัญหาก็จะไม่จบ โดยทางโรงเรียนจะต้องรายงานไปยังกระทรวงศึกษาธิการให้ลงมาช่วยแก้ไขปัญหามิให้เกิดขึ้นซ้ำอีก และในวันนี้นางปวีณาจะได้ประสานไปยังผู้แทนกระทรวงศึกษา ดร.ชนะ สุ่มมาตย์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน สพฐ. เพื่อให้ ด.ญ.มุ่ย และผู้ปกครองเข้าพบรับทราบเรื่องและตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวเพื่อแก้ปัญหาและป้องกันเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศเด็กในโรงเรียนมิให้เกิดขึ้นอีก
ส่วนในเรื่องการดำเนินคดี เนื่องจากทั้งสองฝ่ายเป็นเด็กทั้งคู่ ก็จะต้องมีมาตราการตามกระบวนการยุติธรรมของเด็ก คือ สอบสหวิชาชีพ ทั้งสองฝ่าย เนื่องจากในบันทึกของโรงเรียนได้ระบุชัดเจนว่า เด็กนักเรียนชายทั้ง 5 คน ได้ล่วงละเมิดทางเพศ เด็กนักเรียนหญิงจริง โดยมีผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชายลงนามรับทราบ และครู ผู้อำนวยการเซ็นเป็นพยาน บันทึกฉบับนี้จะเป็นหลักฐานสำคัญที่ตำรวจจะนำมาเป็นพยานหลักฐานด้วย เด็กนักเรียนหญิงก็จะต้องเข้าบำบัดฟื้นฟูสภาพจิต และมูลนิธิปวีณาฯ จะประสานกระทรวงศึกษาธิการขอให้ย้ายสถานที่เรียนใหม่ ส่วนเด็กนักเรียนชายก็จะต้องเข้ารับการอบรมฟื้นฟูสภาพจิตใจตามกระบวนการยุติธรรมเด็ก ให้เขากลับมาใช้ชีวิตเป็นเด็กดีของสังคมต่อไป.
Comments