กรุงเทพฯ 5 ก.ย. 66 "ปวีณา" ขอบคุณ รพ.วิมุต ช่วยรับ ด.ช. 10 ขวบ ถูกมินิบัสซิ่งชนทับร่างสาหัส มารักษาตัวต่อ พร้อมฟื้นฟูสภาพจิตใจเพื่อเตรียมผ่าตัดครั้งที่ 4
กรุงเทพฯ วันที่ 5 ก.ย. 66 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วย นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จํากัด , นพ.สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯ และทีมแพทย์ผู้ชํานาญการด้านกระดูกและระบบทางเดินหายใจในเด็ก ร่วมกันแถลงข่าวหลังรับน้องอะตอม อายุ 10 ขวบ ผู้บาดเจ็บจากเหตุรถมินิบัสสาย 12 ซึ่งเป็นรถร่วม ขสมก. เฉี่ยวชนและทับร่างซํ้าจนได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณปากซอยประชาสงเคาะห์ 33 เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา
นพ.สุวาณิช กล่าวว่า โรงพยาบาลได้จัดเตรียมแพทย์เฉพาะไว้ 3 ท่าน คือ 1.แพทย์กระดูกที่จะดูแลในเรื่องของกระดูกสะโพก 2.แพทย์เด็กที่จะดูภาพรวมและสภาพจิตใจ 3.แพทย์ศัลยกรรม ดูแลในเรื่องของระบบปัสสาวะ นอกจากนี้ได้จัดเตรียมทีมพยาบาลคอยดูแลน้องตลอดระยะเวลาที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวิมุต
ด้าน นพ. ปฐมฉัฐ พิสิฐวัฒนาภรณ์ แพทย์ผู้ชํานาญการด้านออร์โธปิดิกส์ ศูนย์กระดูกและข้อ กล่าวว่า ปัญหาหลักของเด็กคือกระดูกเชิงกรานแตก เป็นสาเหตุที่เด็กเสียเลือดมากในที่เกิดเหตุ ซึ่งทางแพทย์จะพยายามรักษาฟื้นฟูให้กระดูกที่แตกกลับเข้าจุดเดิมคาดว่าภายใน 1 เดือนกระดูกจะสามารถสมานกลับเข้าที่เดิมได้ นอกจากนี้จะต้องดูแลในเรื่องของภาวะแทรกซ้อนที่อาจตามมา เช่น แผลติดเชื้อ และความอ่อนล้าของกล้ามเนื้อ จากการนอนรักษาตัวเป็นเวลานาน
ในส่วนการฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ พญ.สุธิดา ชินธเนศ แพทย์ผู้ชํานาญการโรคระบบการหายใจในเด็ก ศูนย์กุมารเวช ระบุว่า หลักๆ จะช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจของเด็กตลอดระยะเวลา 3 สัปดาห์ ที่รักษาตัวเพื่อเตรียมความพร้อมในการผ่าตัดครั้งที่ 4 โดยจะส่งไปผ่าตัดยังโรงพยาบาลศิริราช
ขณะที่พ่อของน้องอะตอม เป็นห่วงเรื่องความเป็นชายในอนาคต ส่วนแม่เป็นห่วงในเรื่องของการเดินที่อาจผิดรูปนั้น นพ.สุวาณิช กล่าวว่า เรื่องความเป็นชายของเด็กไม่น่ามีปัญหาและเพราะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อลูกอัณฑะ ส่วนเรื่องการเดินหากกระดูกสมานคงที่และไม่บิดเบี้ยวมากนักก็สามารถกลับมาเดินได้ตามปกติ
ทั้งนี้ นพ.สุวาณิช กล่าวทิ้งท้ายว่า การรักษายังไม่เสร็จสิ้น ซึ่งต้องมีการผ่าตัดเพิ่มที่โรงพยาบาลศิริราช แต่ระหว่างอยู่ที่โรงพยาบาลวิมุตจะเป็นการพักฟื้นเพื่อเตรียมความพร้อมในการผ่าตัด ส่วนโรคแทรกซ้อนต่างๆ ต้องรอให้ทางแพทย์เฉพาะทางมีการประเมินก่อน แต่แนวโน้มในเบื้องต้นมั่นใจว่าเด็กจะมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นและพร้อมในการผ่าตัดครั้งที่ 4 อย่างแน่นอน
โดยวันที่ 4 ก.ย.66 เวลา 13.00 น. นางปวีณา พาแม่ด.ช.10 ขวบ ถูกรถมินิบัสสาย 12 ซิ่งสยองพุ่งชนท้ายรถจยย. ทำให้ด.ช.ซึ่งซ้อนท้ายแม่กระเด็นตกกลางถนน รถมินิบัสเหยียบร่างซ้ำสาหัส ประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้มอบหมาย พ.ต.อ.ภูมิยศ เหล็กกล้า รอง ผบก.น.1 เป็นตัวแทน และพ.ต.อ.นราวุฒิ รักษาวงศ์ ผกก.สน.ดินแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกคนขับรถมินิบัสที่ขับรถชนเด็กมาคุย ซึ่งยอมรับว่าตนเองกระทำการประมาทมาเจรจาพร้อมตัวแทน ขสมก. และบริษัทประกันภัย
ขณะที่นางปวีณา ได้ประสาน นางสาวจิฬาภรณ์ ตามชู กฤษณสุวรรณ ผู้อำนวยการ สำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรมส่งผู้แทนเข้าประชุมกรณีเงินเยียวยาผู้เสียหายทางคดี เพื่อให้เด็กชายผู้เคราะห์ร้ายได้รับการเยียวยาโดยเร็ว
นอกจากนี้ นางปวีณาได้พานักเรียนนายร้อยตำรวจ ชั้นปีที่ 3 รุ่นที่ 78 จำนวน 30 นาย ที่เข้าศึกษาดูงานมูลนิธิปวีณาฯ ระหว่างวันที่ 29 ส.ค. – 12 ก.ย.66 ตามโครงการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ หลักสูตรสัมผัสปัญหาชุมชน รุ่นที่ 27 ปีการศึกษา 2566 มาดูงานที่สน.ดินแดงด้วย
สำหรับกรณีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ส.ค.66 แม่ด.ช. 10 ขวบ นักเรียนชั้นป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านดินแดง ห้วยขวาง กรุงเทพฯ ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา แจ้งว่า ลูกชายถูกรถมินิบัสสาย 12 รถร่วมฯ และขสมก. ชนท้ายรถจักรยานยนต์ที่แม่ขับขี่และน้องนั่งซ้อนท้ายจนลูกร่างกระเด็นไปกลางถนนและรถมินิบัสได้ขับทับเหยียบร่างจนได้รับบาดเจ็บสาหัส กระเพาะปัสสาวะฉีกขาด ม้ามฉีกขาด และกระดูกเชิงกรานแตกหัก ผ่าตัดมาแล้ว 3 ครั้ง เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุทางคนขับรถมินิบัส บริษัทรถร่วมฯ และขสมก. ยังไม่ได้มาเยียวยาแต่อย่างใด
Comentários