"ปวีณา" ต้อนรับ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เยี่ยมดูงานมูลนิธิปวีณาฯ

จ.ปทุมธานี 18 พ.ย.67 นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย จับมือ "ปวีณา" รณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรีทุกรูปแบบ เนื่องจากองค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 25 พ.ย.ของทุกปี เป็น “วันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล" และในประเทศไทยได้มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2542 กำหนดให้เดือนพ.ย.ของทุกปี เป็นเดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี

ที่มูลนิธิปวีณาฯ วันที่ 18 พ.ย.67 เวลา 14.30 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ให้การต้อนรับ นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย นางเดวอรา ดอร์สแมน ยาร์โคนี รองหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต (เลขานุการเอก) น.ส. ณัฐรดา ศิริอัครลาภ เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมือง นางกรกช ธเนศรักษา ผู้ช่วยเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ที่เดินทางมาเยี่ยมดูการทำงานในการช่วยเหลือเด็ก สตรี และผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในสังคม โดยมี นายสุเมธ เตชะไกรศรี รองประธานมูลนิธิปวีณาฯ ร่วมให้การต้อนรับ

นางปวีณา ได้กล่าวถึงการทำงานของมูลนิธิปวีณาฯ ในการช่วยเหลือเคสต่างๆ ที่ร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ อาทิ กรณีข่มขืน ทารุณกรรม ค้ามนุษย์ อาชญากรรมออนไลน์ ยาเสพติด และอื่นๆ มูลนิธิปวีณาฯ จะให้การช่วยเหลือแบบ One Stop Service Center หรือให้การช่วยเบ็ดเสร็จครบวงจร โดยทำงานแบบบูรณาการร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ประสานผู้กำกับการสถานีตำรวจ พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความตำรวจ สอบปากคำ พาไปตรวจร่างกายและดูแลสภาพจิตใจ ถ้าผู้เสียหายเป็นเด็กหากจำเป็นต้องเข้ารับการคุ้มครองจะประสานกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ให้ที่พักเพื่อความปลอดภัย และมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจนกว่าจะมีการจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี จากนั้นมูลนิธิปวีณาฯ จะประสานกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับเงินเยียวยา ซึ่งกรณีเด็กหากต้องย้ายโรงเรียนจะประสานกระทรวงศึกษาธิการดำเนินการช่วยเหลือ นอกจากนี้พลเมืองดีได้มีส่วนร่วมช่วยเหลือสังคมกับมูลนิธิปวีณาฯ โดยแจ้งเบาะแสมาจากทั่วประเทศจึงทำให้มูลนิธิปวีณาฯ ทำงานประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง

นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับนางปวีณา โดยเล่าถึงประเทศอิสราเอลที่กำลังอยู่ในช่วงสงครามตอนนี้ว่า มีเด็กและสตรีที่ได้รับผลกระทบบ้าง ซึ่งทางอิสราเอลมีผู้เชี่ยวชาญในการช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพจิตใจ หากมีโอกาสยินดีที่จะร่วมกับมูลนิธิปวีณาฯ ในการหารือร่วมกันทำงานช่วยเหลือเด็กและสตรีที่ถูกทารุณกรรมและล่วงละเมิดทางเพศ โดยนางออร์นา ซากิฟ จะนัดหมายประชุมหารือทำกิจกรรมร่วมกันให้เป็นรูปธรรมในเวลาอันใกล้นี้อีกครั้ง วันนี้ขอขอบคุณนางปวีณาที่ให้การต้อนรับที่ประทับใจและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

นางปวีณา กล่าวขอบคุณ นางออร์นา ซากิฟ ท่านเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ที่ได้ให้เกียรติมาเยี่ยมชมการทำงานของมูลนิธิปวีณาฯ เนื่องจากองค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี เป็น “วันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล" และในประเทศไทยได้มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2542 กำหนดให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นเดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี มูลนิธิปวีณาฯ จะร่วมกับท่านเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยจับมือกันรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรีทุกรูปแบบอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป.