สองสาวไทยดีใจได้กลับบ้าน ปวีณา ประสาน รมว.แรงงาน ช่วยกลับจากซาอุฯ หลังถูกนายจ้างเท ปิดกิจการ
- ทีมงานมูลนิธิปวีณาฯ
- 3 วันที่ผ่านมา
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 21 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สองสาวไทยดีใจได้กลับบ้าน หลังร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ “ปวีณา” ไปทำงานนวดสปาที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยทำสัญญากับบริษัทจัดหางานผ่านกระทรวงแรงงานถูกต้อง ไปทำงานกับเจ้าของร้านชาวซาอุดิอาระเบีย ทำได้เกือบ 2 ปี จู่ๆ นายจ้างเทปิดกิจการ บอกเลิกจ้างล่วงหน้าเพียง 3 วัน ไม่จ่ายค่าจ้างเดือนสุดท้าย ปล่อยลอยแพ 2 เดือน ไม่ทำวีซ่าออกนอกประเทศ (exit visa) ให้ “ปวีณา” พาญาติร้องที่กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ และประสาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายวิชิต อินทรเจริญ รองอธิบดีกรมการจัดหางานให้การช่วยเหลือทั้ง 2 คนอย่างเร่งด่วน ล่าสุด กรมแรงงานที่ริยาด ซาอุดีฯ ได้ออก exit visa ให้ทั้งสองคนแล้ว พร้อมเดินทางกลับไทยในคืนวันที่ 29 พ.ค.68 และจะถึงประเทศไทยช่วงบ่ายวันที่ 30 พ.ค.68 นางปวีณา มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ เดินทางไปรับทั้งสองคนที่สนามบิน นางปวีณา ขอขอบคุณ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายวิชิต อินทรเจริญ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน นายมังกร ประทุมแก้ว อธิบดีกรมการกงสุล นายอำนาจ พละพลีวัลย์ ผอ.กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ที่ให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว
วันนี้ 28 พ.ค.68 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้รับแจ้งจาก นายวิชิต อินทรเจริญ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน ว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค.68 สำนักงานแรงงานริยาดได้เดินทางไปยังเมืองเจดดาห์เพื่อช่วยเหลือแรงงานไทยทั้ง 2 ราย โดยสรุปที่สำนักงานแรงงานเจดดาห์ดำเนินการล่าช้า เพราะระบบของแรงงานซาอุดีฯ ล่มทั้งระบบ ขณะนี้กำลังดำเนินการให้ออก Final Exit Visa โดยสำนักงานแรงงานได้พูดคุยให้กำลังใจและชี้แจงทำความเข้าใจให้แรงงานทั้ง 2 ราย ทราบด้วยแล้ว ล่าสุด สำนักงานแรงงานซาอุดีฯ แจ้งว่า ผู้เสียหายทั้ง 2 คนจะได้เดินทางกลับไทย โดยออกจากประเทศซาอุดีฯ คืนพรุ่งนี้ 29 พ.ค.68 และถึงประเทศไทยในเวลา 13.00 น. วันศุกร์ที่ 30 พ.ค.68

ความเป็นมา ที่มูลนิธิปวีณาฯ : วันที่ 28 พ.ค.68 เวลา 11.00 น. ผู้เสียหาย 2 ครอบครัว เดินทางจาก จ.ชัยภูมิ และจ.ชลบุรี ร้อง "ปวีณา" ช่วยแม่และพี่สาวกลับบ้านจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ครอบครัวที่ 1 น.ส.กรพินธุ์ อายุ 26 ปี ลูกสาวของ น.ส.จรรยา อายุ 49 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ ครอบครัวที่ 2 นายธิติวุฒิ น้องชายของน.ส.กมลรัตน์ อายุ 50 ปี ชาว จ.ชลบุรี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า แม่และพี่สาวของตนทั้งคู่ได้เดินทางไปทำงานนวดสปาที่ร้านนวดแห่งหนึ่งในเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย อย่างถูกกฎหมายโดยติดต่อผ่านบริษัทจัดหางานแห่งหนึ่ง ย่านรามอินทรา กรุงเทพฯ และกระทรวงแรงงาน มีสัญญาจ้างงาน 2 ปี แต่เมื่อวันที่ 10 มี.ค.68 เจ้าของร้านนวดชาวซาอุดิอาระเบีย 2 คน ซึ่งเป็นหุ้นส่วนมีปัญหากันเองได้ปิดกิจการลงกะทันหันแจ้งให้ทราบเพียงล่วงหน้า 3 วัน โดยไม่ได้รับเงินค่าจ้างเดือนสุดท้าย พร้อมทั้งค่าคอมมิชชั่นแม่กับพี่สาวคนละประมาณ 4,000 ริยัลซาอุดีอาระเบีย หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 34,000 บาท และเจ้านายไม่ยอมทำวีซ่าออกนอกประเทศ (exit visa) ให้ ทำให้แม่และพี่สาวต้องติดอยู่ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย 2 เดือนกว่าแล้ว ซึ่งทั้งสองคนไม่ได้ทำงาน ไม่มีรายได้ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเช่าบ้านและค่ากินอยู่ที่สูงมาก โดยแม่และพี่สาวได้ไปติดต่อสำนักงานแรงงานไทยที่เมืองริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.68 และทางบริษัทจัดหางานที่พาไปก็ช่วยประสานงานให้แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า จึงอยากขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยประสานกระทรวงแรงงานให้ทั้งสองคนได้กลับไทยโดยเร็ว

หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ติดต่อดำเนินการดังนี้
1.วันที่ 26 พ.ค.68 นางปวีณา ได้ประสาน นายมังกร ประทุมแก้ว อธิบดีกรมการกงสุล นายอำนาจ พละพลีวัลย์ ผอ.กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ พร้อมมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาครอบครัวผู้เสียหายทั้ง 2 ไปติดต่อที่กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ

2.วันที่ 27 พ.ค.68 นางปวีณา ได้ประสาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โดยมอบหมายให้ นายวิชิต อินทรเจริญ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน ให้การช่วยเหลือหญิงสาวทั้งสองกลับไทย
3.มีเจ้าหน้าที่กรมแรงงานไทยที่เมืองเจดดาห์ 2 คน และเจ้าหน้าที่สถานทูต 1 คน ไปเยี่ยมผู้เสียหายทั้ง 2 คน และมอบเอกสารหมายเลข exit visa เพื่อยื่นขอวีซ่าขอออกนอกประเทศกลับประเทศไทย โดยทางสถานทูตแจ้งว่าจะมีผู้ช่วยทูตแรงงานไทยที่เมืองเจดดาห์ มารับผู้เสียหายทั้ง 2 คนไปดำเนินการแต่ผู้เสียหายขอไปดำเนินการเอง
4.วันที่ 28 พ.ค.68 ผู้เสียหายได้เดินทางไปติดต่อ immigration ปรากฏว่าข้อมูลยังมาไม่ถึง ขณะนี้ผู้เสียหายจึงได้เดินทางไปติดต่อกรมแรงงานไทยที่เมืองเจดดาห์ด้วยตนเองว่าติดปัญหาใด เพราะผู้เสียหายเกรงว่าจะติดช่วงเทศกาลฮัจญ์ของประเทศซาอุดีอาระเบียนาน 2 สัปดาห์
5.นางปวีณา จึงได้ประสานกับ นายวิชิต อินทรเจริญ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน
เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ 28 พ.ค.68 นางปวีณา ได้รับแจ้งจาก นายวิชิต อินทรเจริญ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน ว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค.68 สำนักงานแรงงานริยาดได้เดินทางไปยังเมืองเจดดาห์เพื่อช่วยเหลือแรงงานไทยทั้ง 2 ราย โดยสรุปที่สำนักงานแรงงานเจดดาห์ดำเนินการล่าช้าเพราะระบบของแรงงานซาอุดีฯ ล่มทั้งระบบ ขณะนี้กำลังดำเนินการให้ออก Final Exit Visa โดยสำนักงานแรงงานได้พูดคุยให้กำลังใจและชี้แจงทำความเข้าใจให้แรงงานทั้ง 2 ราย ทราบด้วยแล้ว เบื้องต้นสำนักงานแรงงานซาอุดีฯ แจ้งว่า ผู้เสียหายทั้ง 2 คนน่าจะได้เดินทางกลับไทยภายใน 2-3 วันนี้ เนื่องจากต้องรอ Exit visa จากทางการซาอุดีฯสาเหตุที่นายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างเพราะขาดสภาพคล่องทางการเงิน ไม่มีเงินจ่ายค่าทำบัตรต่างด้าวให้คนงานซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งสำนักงานแรงงานซาอุดีฯ ได้สอบถามผู้เสียหายทั้ง 2 คนแล้ว ไม่ติดใจค่าจ้างค้างจ่ายแต่ต้องการเดินทางกลับประเทศไทยโดยเร็ว
ล่าสุด สำนักงานแรงงานซาอุดีฯ แจ้งว่า ผู้เสียหายทั้ง 2 คนจะได้เดินทางกลับไทย โดยออกจากประเทศซาอุดีฯ คืนพรุ่งนี้ 29 พ.ค.68 และถึงประเทศไทยในเวลา 13.00 น. วันศุกร์ที่ 30 พ.ค.68 นางปวีณา ขอขอบคุณ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายวิชิต อินทรเจริญ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน นายมังกร ประทุมแก้ว อธิบดีกรมการกงสุล นายอำนาจ พละพลีวัลย์ ผอ.กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ที่ให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว.
ขอบคุณสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าว
Comments