กรุงเทพ ปวีณา พาเคส 6 ราย ไปกระทรวงยุติธรรม เพื่อเข้ารับการช่วยเหลือเงินเยียวยาผู้เสียหายในคดีอาญา พร้อม พา นรต.สามพราน รุ่น 80 เข้าดูงาน

ที่กระทรวงยุติธรรม  วันที่ 4 ก.ย.68 เวลา 13.30 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พาเคส 6 ราย ไปกระทรวงยุติธรรม พบกับ น.ส.จิฬาภรณ์ ตามชู กฤษณสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา (ผอ.สชง.) กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อเข้ารับการช่วยเหลือเงินเยียวยาผู้เสียหายในคดีอาญา

เคส 6 ราย จำนวน 4 คดี ดังนี้ 

1.กรุงเทพฯ คดี ด.ญ.3 ขวบ ถูกพี่เลี้ยงทำร้ายสาหัส ซี่โครงหัก ปากฉีด เอาเตารีดนาบทั่งตัวเป็นแผลเหวอะ ต้องเข้ารักษาตัวในห้อง ICU โดยวันที่ 29 ส.ค.68 ยายร้อง "ปวีณา" เอาหลานไปจ้างอดีตแฟนของเพื่อนเลี้ยงได้ 4 เดือน เพราะต้องทำงานขับรถรับจ้าง ส่วนพ่อแม่เด็กเลิกรากันต่างไปมีครอบครัวใหม่ ระยะหลังไม่ได้คุย Video Call กับหลานเพราะพี่เลี้ยงอ้างว่าญาติพาไปเที่ยว อุตส่าห์ไว้ใจไม่คิดจะมาทำกับเด็ก 3 ขวบได้ "ปวีณา" ประสาน พ.ต.อ.ศิริชาติ จันทร์พรมมา ผกก.สน.ปทุมวัน พายายไปแจ้งความ ตร.รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ จับกุมพี่เลี้ยงดำเนินคดี อ้างทำไปเพราะเครียด หงุดหงิดที่เด็กฉี่-อึไม่ยอมบอกทำเลอะเทอะ ตร.ส่งฝากขังแล้วเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา 

2.จ.สระบุรี คดีเด็กนักเรียนหญิง ป.2 อายุ 7 ขวบเท่ากัน จำนวน 3 ราย (3 ครอบครัว) ถูกครูอัตราจ้าง อายุ 30 ปี สอนภาษาอังกฤษ ล่วงละเมิดทางเพศ โดยวันที่ 25 ส.ค.68 คุณแม่ 3 ราย ร้อง "ปวีณา" ลูกสาวทั้ง 3 คน ถูกครูล่วงละเมิดทางเพศในห้องพักครูช่วงพักกลางวัน อาศัยตอนครูคนอื่นไม่อยู่ออกไปทานข้าว โดยเรียกเด็กมาเล่นนั่งตักแล้วกอดจูบลูบคลำใช้นิ้วแหย่เข้าไปในอวัยวะเพศ และใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปไว้หลายครั้ง กระทำมานานเป็นปีตั้งแต่ลูก ป.1 สั่งห้ามไปบอกใคร ครูมีประวัติเคยกระทำกับเด็กโรงเรียนอื่นก่อนจะย้ายมาเพราะไกล่เกลี่ยได้เลยไม่ถูกดำเนินคดี "ปวีณา" ประสาน พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ แสนวงศ์สิริ ผกก.สภ.หนองแค ออกหมายจับรวบตัวดำเนินคดีส่งฝากขังแล้วเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา 

3.จ.นนทบุรี คดี น.ส.เอ (นามสมมุติ) สาววัย 32 ปี ถูกอดีตสามีหึงโหดแอบบุกเข้ามาในบ้านใช้มีดแทงหลัง-กรีดหน้า เย็บ 54 เข็ม โดยวันที่ 7 ส.ค.68 ผู้เสียหายร้องทุกข์ "ปวีณา" ตำรวจจับกุมอดีตสามีแล้ว เกรงจะหวนกลับมาทำร้ายซ้ำอีก ขอช่วยคุ้มครองความปลอดภัย และต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด "ปวีณา" ประสาน พ.ต.อ.ณัฏฐ์เดชา ฐานิสภัทราพงศ์ ผกก.สภ.ไทรน้อย พาผู้เสียหายและพยานไปให้ปากคำ ตร.แจ้งข้อหา "พยายามฆ่า" กับผู้ต้องหาเพิ่มเติมส่งฝากขังศาลพร้อมคัดค้านการประกันตัว เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา

4.จ.นนทบุรี คดี น.ส.บี (นามสมมุติ) สาววัย 27 ปี ถูกแฟนหนุ่มเทรนเนอร์มวย ซ้อมทำร้ายทารุณ กระดูกเบ้าตาซ้ายหัก โดยวันที่ 5 ส.ค.68 ผู้เสียหายหนีตายร้อง "ปวีณา" ขอความช่วยเหลือบอบช้ำทั้งกายและใจ แฟนหนุ่มมีประวัติทำร้ายอดีตแฟนเก่าจนเข้า ICU มาแล้วถูกคุมประพฤติแต่ยังมาก่อเหตุซ้ำอีก อ้างมีแบ๊กดีไม่มีใครกล้ายุ่ง ขอช่วยดำเนินคดีให้ถึงที่สุด "ปวีณา" ประสาน พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 และพ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด มอบหมายเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาผู้เสียหายไปแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวแฟนหนุ่มส่งดำเนินคดีแล้วเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา   

วันนี้ นางปวีณา ยังได้พานักเรียนนายร้อยตำรวจ ชั้นปีที่ 3 รุ่นที่ 80 จำนวน 30 นาย ที่มาศึกษาดูงานมูลนิธิปวีณาฯ ร่วมเดินทางไปศึกษาดูการทำงานบริการประชาชน และรับฟังการบรรยายสรุปงานช่วยเหลือประชาชนจาก น.ส.จิฬาภรณ์ ตามชู กฤษณสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา (ผอ.สชง.) นายณัฐพล ด่านจิตร์ตรง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพ นายปฐมพร โรจน์เรืองแสง หัวหน้ากลุ่มงานช่วยเหลือและเยียวยา (หน.ช่วยเหลือเยียวยา สชง.) และนายกิตติวิทย์ คงบุญรักษ์ หัวหน้าศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม ณ ห้อง 5-01 ชั้น 5 กระทรวง

ยุติธรรม

นางปวีณา กล่าวว่า ขอขอบคุณ น.ส.จิฬาภรณ์ ตามชู กฤษณสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา (ผอ.สชง.) นายณัฐพล ด่านจิตร์ตรง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพ นายปฐมพร โรจน์เรืองแสง หัวหน้ากลุ่มงานช่วยเหลือและเยียวยา (หน.ช่วยเหลือเยียวยา สชง.) และนายกิตติวิทย์ คงบุญรักษ์ หัวหน้าศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม ที่ให้การช่วยเหลือเคสต่างๆ ของมูลนิธิปวีณาฯ ด้วยดีเสมอมา วันนี้ได้พานักเรียนนายร้อยตำรวจ ชั้นปีที่ 3 รุ่นที่ 80 จำนวน 30 นาย มาศึกษาดูการทำงานบริการประชาชน และรับฟังการบรรยายสรุปงานช่วยเหลือประชาชนซึ่งเป็นประโยชน์มาก หวังว่านักเรียนนายร้อยตำรวจที่มาศึกษาดูงานวันนี้จะได้รับรู้ถึงปัญหาสังคมและแนวทางการแก้ไขช่วยเหลือประชาชน เพื่อเตรียมพร้อมการเป็นตำรวจผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่มีประสิทธิภาพที่จะสามารถเป็นที่พึ่งและดูแลประชาชนได้ในอนาคต