จ.นครราชสีมา 27 ก.ค.66 พี่สาวร้อง “ปวีณา” น้องสาวถูกหลอกไปทำงานนวดแผนไทยที่ดูไบ หลังเดินทางไปได้ 3 วัน เสียชีวิตปริศนา ร่วม 9 เดือน ขอมูลนิธิปวีณาฯ ประสานสถานกงสุลฯ หาสาเหตุการเสียชีวิตและขอนำศพกลับบ้านเกิด
จ.นครราชสีมา วันที่ 27 ก.ค.66 พี่สาวร้อง “ปวีณา” น้องสาวถูกหลอกไปทำงานนวดแผนไทยที่ดูไบ หลังเดินทางไปได้ 3 วัน เสียชีวิตปริศนา ร่วม 9 เดือนเพิ่งรู้ข่าวจากคนไทยว่าน้องสาวเสียชีวิต จึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ประสานสถานกงสุลฯ หาสาเหตุการเสียชีวิตและขอนำศพกลับบ้านเกิด
วันที่ 27 ก.ค.66 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี น.ส.แจง (นามสมมุติ) พี่สาว อายุ 57 ปี เดินทางมา จ.นครราชสีมา เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ขอความช่วยเหลือ น.ส.จี (นามสมมุติ) น้องสาว อายุ 49 ปี ถูกหลอกไปทำงานนวดแผนไทย ที่รัฐดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.65 ก่อนจะหายไปติดต่อไม่ได้ ผ่านไปร่วม 9 เดือน วันที่ 13 ก.ค.66 ญาติได้รับการติดต่อจากคนไทยในเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แจ้งว่าน้องสาวเสียชีวิตแล้วตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.65 หลังเดินทางไปดูไบได้ 3 วัน ครอบครัวจึงได้แจ้งขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ อยากทราบสาเหตุการเสียชีวิตของน้องสาวและขอนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย
หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล เพื่อขอความช่วยเหลือครอบครัวในการตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตและการดำเนินการรับศพกลับจากรัฐดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาประเทศไทย โดยนางปวีณา จะเดินทางพาพี่สาวผู้เสียชีวิตเข้าพบ นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล วันพฤหัสบดีที่ 3 ส.ค. 66 เวลา 16.00 น. ที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ถนนแจ้งวัฒนะ
น.ส.แจง พี่สาว กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทราบจากน้องเขยว่า น.ส.จี น้องสาวได้รับการชักชวนไปทำงานนวดแผนไทยที่ดูไบโดยหวังว่าจะได้เงินมาก และหลงเชื่อเดินทางไปเมื่อวันที่ 3 ต.ค.65 คนเดียว จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ไม่คิดว่าการเดินทางไปครั้งนี้ของน้องสาวต้องไปจบชีวิตในต่างแดน
นางปวีณา เตือนภัยผู้ที่เดินทางไปทำงานต่างประเทศแล้วไม่บอกพ่อแม่ ญาติ สุดท้าย เกิดปัญหาถูกหลอกบังคับค้าประเวณี หลอกทำงานผิดกฎหมาย ไม่สามาถช่วยเหลือตัวเองได้ มาแจ้งมูลนิธิปวีณาฯ ขอความช่วยเหลือจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเราก็ไม่ได้ช่วยได้เสมอไป จึงขอให้ไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนจะตัดสินใจเดินทางไปทำงานต่างประเทศ เพราะไม่มีเงิน ไม่มีทองที่จะให้ไปขุด ดังคาดหวังไว้ และยังถูกบังคับทำงาน เงินก็ไม่ได้ดั่งหวัง เมื่อไม่ทำงานก็ถูกทำร้ายร่างกาย บางรายถูกบังคับเสพยาเสพติดอีกด้วย อย่าเชื่อคนง่าย ว่าจะได้เงินมาก สุดท้ายถูกหลอก เงินก็ไม่ได้ ต้องเป็นหนี้ บางคนเอาชีวิตไม่รอด
สรุปสถิติมูลนิธิปวีณาฯ ได้รับเรื่องร้องทุกข์คนไทยถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศ ค้ามนุษย์/ค้าประเวณี ปี 2565 จำนวน 255 ราย ปี 2566 ตั้งแต่ 2 ม.ค. – 26 ก.ค. 66 จำนวน 214 ราย ส่วนใหญ่เป็นประเทศ 1.เมียนมาร์ 60 ราย, 2.ดูไบ 38 ราย, 3.บาห์เรน 16 ราย, 4.กัมพูชา 17 ราย, มาเลเซีย 8 ราย และประเทศอื่นๆ อีก 75 ราย อาทิ ประเทศอินเดีย, ศรีลังกา, เกาหลี, กาน่า โดยกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์จะมีวิธีแยบยลต่างๆ โฆษณาตามสื่อออนไลน์อ้างว่า งานสบาย รายได้ดี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง พอหลงเชื่อเดินทางไปสุดท้ายต้องเป็นหนี้หลายแสนบาท ถูกกักขัง ทำร้าย บังคับทำงานผิดกฎหมาย เรียกค่าไถ่ ซึ่งการเข้าเมืองผิดกฎหมาย และทำงานในต่างประเทศอย่างผิดกฎหมาย ต้องได้รับโทษตามกฎหมายประเทศนั้นๆ ซึ่งแต่ละพื้นที่มีความยากในการประสานการช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่อาจช่วยเหลือไม่ได้ทุกคน
นางปวีณา กล่าวว่า ท่านอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับ มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ขอประชาสัมพันธ์ให้คนไทยที่คิดจะไปทำงานในต่างประเทศต้องตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนจากกระทรวงแรงงานทุกจังหวัด หรือ กระทรวงการต่างประเทศ หรือ มูลนิธิปวีณาฯ ก่อนที่จะต้องสูญเสียทั้งเงินและอิสรภาพ ขอบคุณสื่อมวลชนทุกแขนงที่ให้ความสำคัญร่วมมือช่วยประชาสัมพันธ์เรื่องคนไทยถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศด้วยดีตลอดมา
โดยวันพฤหัสบดีที่ 3 ส.ค.66 เวลา 16.00 น. นางปวีณาจะพาพี่สาวผู้เสียชีวิตที่เมืองดูไบไปพบ นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล ที่กรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะ พร้อมกับอีกหลายเคสที่ถูกหลอกไปประเทศมาเลเซีย และถูกหลอกไปเมืองล๊อกกิ่ง ประเทศเมียนมา ที่ร้องขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิปวีณาฯ
留言