top of page
  • รูปภาพนักเขียนทีมงานมูลนิธิปวีณาฯ

พ่อร้อง “ปวีณา” ลูกสาววัย 14 ปี ถูกตาเลี้ยงข่มขืนตั้งแต่ 6 ขวบ

จ.ชุมพร 10 ก.ย.66 พ่อร้องลูกสาวถูกตาเลี้ยงอายุ 73 ปีข่มขืนตั้งแต่อายุ6 ขวบถึง 14 ปี หลังแจ้งความตำรวจได้จับกุมตาเลี้ยงมาดำเนินคดีแล้ว แต่ได้รับการประกันตัว ตนกับลูกเกรงว่าจะเกิดอันตราย เพราะตาเลี้ยงเป็นทหารเก่าและกว้างขวางในพื้นที่ จึงตัดสินใจเข้าพบมูลนิธิปวีณาฯขอความช่วยเหลือให้ได้รับความปลอดภัย



จ.ชุมพร วันที่ 10 ก.ย.66 เวลา 13.00 น. พ่อร้อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ลูกสาววัย 14 ปี ถูกตาเลี้ยงข่มขืนมาราธอน 8 ปี ตั้งแต่ 6 ขวบถึง 14 ปี เรื่องนี้เป็นความลับที่ลูกสาวปกปิดมานานตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เพราะถูกตาเลี้ยงขู่ว่า ถ้าบอกยายจะฆ่าให้ตาย ลูกสาวกับพ่อนั้นพลัดพรากกัน 12 ปี แม่อุ้มหนีไปตั้งแต่ลูกสาวอายุ 2 ขวบ มีเพียงภาพถ่ายเหลือไว้ให้ดูต่างหน้า ซึ่งพ่อพยายามใช้รูปตามหาลูกทุกวิถีทาง โดยโพสต์รูปภาพลูกสาวลงเฟซบุ๊ก จนกระทั่งเพื่อนของลูกสาวเห็นเฟซบุ๊กที่พ่อโพสต์รูปลูกสาวสมัยเด็กๆ เพื่อนลูกสาวจึงได้โทรไปบอกว่ามีคนตามหาเธอ ลูกสาวจึงทักเฟซบุ๊กมาหาพ่อ จึงรู้ว่าเป็นพ่อ ต่อมาติดต่อกันได้ ถามไถ่ทุกข์สุข ลูกกลับเปิดปากขอพ่อช่วย ลูกถูกตาเลี้ยงข่มขืนจนกระทั้งได้นัดแนะกัน เพื่อพ่อจะมารับลูกเพื่อพาไปแจ้งความที่ สภ.เมืองชุมพร ซึ่งเป็นวันแรกที่พ่อลูกได้พบหน้ากัน หลังจากแจ้งความพ่อและแม่เลี้ยงได้โทรสายด่วน 1134 มาร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาฯ ขอให้ช่วยเหลือติดตามคดี หลังนางปวีณา ได้รับเรื่องจึงได้ประสานกับ ผกก.สภ.เมืองชุมพร นัดสอบสหวิชาชีพ ตรวจร่างกาย และวันที่ 9 ก.ย. พ.ต.อ.เทเวศร์ ปลื้มสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองชุมพร ได้รายงาน นางปวีณา ว่าตำรวจได้เรียกตาเลี้ยงมารับทราบข้อกล่าวหาและได้ส่งตัวฝากขังที่ศาล โดยศาลให้ประกันตัวแล้ว นางปวีณา จึงได้แจ้งพ่อกับแม่เลี้ยงเด็กทราบ


วันที่ 10 ก.ย. 66 จึงขอเข้าพบ นางปวีณา เนื่องจากกลัวความไม่ปลอดภัย เพราะวันที่ 8 ก.ย. 66 ตาเลี้ยงได้โทรมาหาพ่อเพื่อขอเจรจาซึ่งพ่อไม่ยอม บอกว่าไปพบกันในชั้นศาล และได้อัดคลิปเสียงไว้จะส่งให้ตำรวจต่อไป


หลังรับเรื่องนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.เทเวศร์ ปลื้มสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองชุมพร หากผู้เสียหายยังรู้สึกไม่ปลอดภัยถูกข่มขู่ก็จะคัดค้านการประกันตัวตาเลี้ยงผู้ได้กระทำผิด



สำหรับรายละเอียดของเคสนี้

พ่อเด็ก กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนคิดถึงลูกมาก อยากเจอลูกจึงเอารูปลูกสาวไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก โดยหวังว่าจะได้เจอลูกสักวัน กระทั่งเดือนส.ค. 2566 มีเฟซบุ๊กเพื่อนลูกสาวทักมาถามว่าเป็นอะไรกับเด็กในรูป ตนจึงบอกว่าเป็นพ่อ และเพื่อนก็ให้เฟซบุ๊กของลูกสาวมา พ่อลูกจึงได้ติดต่อกันคุยกันในแชตประมาณ 1 เดือน จนลูกแน่ใจและไว้ใจพ่อ และบอกขอให้พ่อช่วย

ลูกสาวเล่าว่า “หนูไปอยู่ชุมพรเพราะแม่ยกหนูให้กับน้องสาวยายซึ่งอยู่กับสามีใหม่วัย 73 ปี พอหนู 6 ขวบ ก็ถูกตาเลี้ยงข่มขืนเรื่อยมาเวลาที่ไม่มีคนอยู่บ้าน ล่าสุดยังถูกกระทำเมื่อวันที่ 21 ก.ค.66 นี้เอง หนูไม่กล้าบอกใครเพราะตาเลี้ยงเป็นทหารเก่า ข่มขู่ว่าเคยฆ่าคนมาเยอะแล้ว ถ้าเอาเรื่องไปบอกใครจะฆ่าให้ตาย หนูไม่รู้ว่าจะไปพึ่งใครที่ไหน แม่กับยายก็ติดเหล้าอยู่จ.นครสวรรค์ ถ้าบอกเขาก็คงช่วยเหลืออะไรไม่ได้ กระทั่งมาเจอพ่อหนูจึงเล่าความจริงทั้งหมด ให้พ่อช่วยหนูพ้นจากขุมนรก”


นายเอ้ กล่าวอีกว่า หลังทราบเรื่องจากลูกจึงได้บอกให้ลูกทำตัวเป็นปกติ เพราะทุกวันตาเลี้ยงคนนี้จะไปรับส่งลูกที่โรงเรียนทุกวัน ตนจึงเดินทางไปชุมพรและวางแผนให้ลูกออกมาหา หลังถึงโรงเรียนแล้ว หลังเจอกันตนได้ฟังเรื่องทั้งหมดก็รีบพาลูกเข้าแจ้งความที่สภ.เมืองชุมพร เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจได้ดำเนินการส่งลูกไปตรวจร่างกาย และสอบปากคำเสร็จในวันเดียว จากนั้นตนจึงได้พาลูกกลับมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ด้วยกัน


วันที่ 9 ก.ย.66 นางปวีณา ได้แจ้งไปยังพ่อว่าตำรวจ ได้จับกุมตาเลี้ยงมาดำเนินคดีแล้ว แต่เมื่อถูกคุมตัวส่งฝากขังศาลก็ได้รับการประกันตัวออกมา ตอนนี้ตนกับลูกอยู่ไม่เป็นสุขเกรงว่าจะเกิดอันตราย เพราะตาเลี้ยงเป็นทหารเก่าและกว้างขวางในพื้นที่ วันก่อนตาเลี้ยงโทรมาหาพูดจาขอไกล่เกลี่ยไม่ให้เอาเรื่อง แต่ตนยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จึงตัดสินใจเข้าพบมูลนิธิปวีณาฯ ขอความช่วยเหลือให้ได้รับความปลอดภัย


ขณะเดียวกันมูลนิธิปวีณาฯ ยังได้ประสาน นางสาวจิฬาภรณ์ ตามชู กฤษณสุวรรณ ผู้อำนวยการ สำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายย.และจำเลยในคดีอาญา กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ (สชง.กคส.) กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับเงินเยียวยาและได้รับการคุ้มครอง โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามกระบวนการต่างๆและความคืบหน้าต่อไป




ดู 24 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page