top of page
  • รูปภาพนักเขียนทีมงานมูลนิธิปวีณาฯ

อดีตพยาบาล 2 เหยื่อฮารุถูกกักขังทำร้าย 3 ปี ขอ “ปวีณา” ช่วยติดตามคดี

2 เหยื่อฮารุถูกกักขังทำร้าย 3 ปี ขอ “ปวีณา” ช่วยติดตามคดี ด้าน “ปวีณา” เผยจะติดตามคดีอย่างใกล้ชิดร่วมกับตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้เสียหายให้ได้รับความเป็นธรรม


วันที่ 20 ต.ค.65 เวลา 10.00 น. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นางสาวมุก อายุ 48 ปี และนางสาวพลอย อายุ 34 ปี อดีตพยาบาล (ทั้งสองนามสมมุติ) เข้าให้ข้อมูลต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กรณีตกเป็นเหยื่อ “ฮารุ-ตรีเพชรรัตน” 2 ผู้ต้องหา ลวงใช้หนี้ทิพย์ 140 ล้านบาท จากการอุปโลกน์ขายคอลลาเจน กักขังทำร้ายร่างกายทั้งโกนผมและนํ้าร้อนลวก เอาเตารีดร้อนๆ นาบขาทั้ง 2 ข้าง ตบหน้าทุกวัน ซ้ำๆ รัวๆ และยังให้แม่พยาบาลตบหน้าลูก กล้อนผมลูก ให้ลูกเกลียดชังแม่ กระทำทารุณนานกว่า 3 ปี เหตุเกิดในคอนโดฯ หรูใจกลางกรุงเทพฯ

สืบเนื่องจากวันศุกร์ที่ 14 ต.ค.65 เวลา 17.00 น. ที่สำนักงานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นายบูม (นามสมมุติ) อดีตสามีพยาบาลสาว เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ขอให้ช่วยประสานตำรวจเข้าช่วยเหลืออดีตภรรยาและลูกสาว 10 ขวบ และลูกชาย 7 ขวบ ถูกกักขังไว้ที่คอนโดฯ แห่งหนึ่ง ย่านบางพลัด กทม. โดน นายบูม ได้เล่าว่า นางบี (นามสมมุติ) ได้ไลน์มาขอความช่วยเหลือว่า ขอให้มารับลูกทั้ง 2 คน ออกไปด้วย นางปวีณาจึงได้ส่งนายบูมไปให้ข้อมูลกับสำนักงาน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ต่อมากองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งนายบูม ได้ติดต่อไว้เช่นกันได้เรียกตัวมาสอบปากคำที่กองบัญชาการ ขณะนั้นนางบี อดีตภรรยา ได้แอบไลน์มาบอกห้องที่พักอยู่และส่งพิกัดเบอร์ห้องพร้อมรหัสประตูมาให้ วันเสาร์ที่ 15 ต.ค.65 ตำรวจจึงนำกำลังเข้าช่วยเหลือและจับกุมผู้กระทำผิดดำเนินคดี


รายที่ 1 นางสาวมุก (อดีตพยาบาล) เล่าว่า รู้จักกับนายฮารุ ช่วง มิ.ย.64 จากนั้นนายฮารุ ได้ชักชวนให้มาลงทุนเป็นตัวแทนกระจายสินค้าคอลลาเจนและเซรั่ม ระยะหลังนายฮารุ อ้างว่าสินค้าคอลลาเจนและเซรั่มขาดทุน พวกตนจะต้องรับผิดชอบหาเงินมาคืน จนตนต้องขายทรัพย์สินรถ บ้าน กู้เงินจากที่ต่างๆ เรื่อยมา เป็นจำนวนเงินกว่า 10,000,000 บาท จนหมดตัว และนายฮารุ ยังบังคับให้ทำงานในแต่ละวันต้องหายอดให้ได้ตามที่นายฮารุกำหนด หากไม่ได้ยอดก็จะทำร้าย ทุบตี ทารุณ โดยการใช้เตารีดนาบที่ขา


ล่าสุดช่วงเดือน ส.ค.65 ถูกเอาน้ำร้อนที่กำลังต้มเดือดราดที่ลำตัว ตนเคยคิดจะฆ่าตัวตายโดยการกระโดดตึกคอนโดฯ ลงมาจากชั้น 7 แต่เมื่อคิดถึงหน้าคนในครอบครัวก็กลัวว่าจะเดือดร้อน เพราะนายฮารุ ได้ข่มขู่เอาไว้ว่าให้ระวังจะเอาเรื่องกับญาติพี่น้องด้วย ตนจึงต้องจำทนอยู่อย่างทรมานมาหลายเดือน กระทั่งวันที่ 16 ต.ค.65 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าไปช่วยเหลือ เหมือนได้ชีวิตใหม่กลับมา แต่ขณะนั้นตนยังหวาดกลัวอิทธิพลของนายฮารุที่เคยข่มขู่ต่างๆ นานา จึงทำให้ตนไม่กล้าพูดความจริง ก่อนจะตัดสินใจร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ขอให้ดำเนินคดีกับนายฮารุ และตรีเพชรรัตน ให้ถึงที่สุด


รายที่ 2 นางสาวพลอย อายุ 34 ปี อดีตพยาบาล เล่าว่า รู้จักกับฮารุตั้งแต่ปี 63 จากการแนะนำของคนที่รู้จัก ก่อนที่ฮารุจะชักชวนทำธุรกิจขายของออนไลน์ โดยตนขอเงินแม่มาทำทุนก่อนที่ฮารุจะเอาเงินของตนไปกว่า 3 แสนบาท และตนเองต้องจำนำรถยนต์ ขายที่ดินเอาเงินมาให้อีกฮารุ รวมกว่า 1 ล้านบาท


ต่อมาเวลา 13:00 น. นางปวีณา พาครอบครัวเหยื่อพยาบาลอีกราย ประชุมสหวิชาชีพกับนักสังคมสงเคราะห์ ศูนย์พึ่งได้ รพ.ตำรวจ ในเรื่องการดูแลสภาพจิตใจของ 3 แม่ลูก


เวลา 15.00 น. นางปวีณา พาอดีตพยาบาลสาว 2 ราย พร้อมทั้งแม่ของอดีตพยาบาลที่รักษาตัวอยู่รพ.ตำรวจ เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดีรังสิต ขอให้ช่วยติดตามคดีให้ถึงที่สุด





ดู 31 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page