top of page

ออกหมายจับแล้ววัยรุ่นรุมโทรม ด.ญ. 13 ปี หลังแม่เดินทางจาก จ.น่าน ร้อง “ปวีณา”

รูปภาพนักเขียน: ทีมงานมูลนิธิปวีณาฯทีมงานมูลนิธิปวีณาฯ


จ.น่าน 20 ม.ค.68 "ปวีณา" ติดตามคดีเด็กหญิง 13 ปีถูกกลุ่มวัยรุ่นนับสิบรุมโทรมในโฮมสเตย์ที่ จ.น่าน มอบหมายเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาผู้เสียหายไปพบ ผกก.สภ.นาน้อย ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ล่าสุด ตร.ออกหมายจับรวบหนุ่ม 18 ปี ที่ร่วมก่อเหตุ เผยรู้รายชื่อเพื่อนร่วมแก๊งอีก 8 คน จ่อเรียกตัวมาสอบสวนดำเนินคดี

 

วันที่ 20 ม.ค.67  นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาแม่และครอบครัวเด็กหญิงวัย 13 ปี ผู้เสียหายที่ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ ลูกสาวถูกกลุ่มทรชนนับสิบคนอายุระหว่าง 14-18 ปี รุมโทรมให้ห้องพักโฮมสเตย์แห่งหนึ่งใน อ.นาน้อย จ.น่าน เหตุเกิดวันที่ 26 ธ.ค.67 เดินทางไปที่สภ.นาน้อย จ.น่าน โดยนางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.ถาวร เต็มสวัสดิ์ ผกก.สภ.นาน้อย ไว้แล้วเพื่อให้ผู้เสียหายไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมในคดี และนางปวีณา ได้ประสาน นางปิยนาถ พูลพิพัฒน์ พมจ.น่าน มอบหมายให้ นายณรงวิทย์ ไผ่ผาด หัวหน้าบ้านพักเด็กฯ น่าน ร่วมเดินทางไปด้วยเพื่อรับแม่และเด็กหญิงผู้เสียหายเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพ หลังผู้เสียหายเกรงว่าครอบครัวจะไม่ปลอดภัยและไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุเป็นลูกหลานของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่

 



จากการบูรณาการทำงานร่วมกันวันนี้ได้มี นางชลทริกา เชียงหนุ้น พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ สาธารณสุข จ.น่าน ได้เข้ามาประเมินเด็กผู้เสียหายเบื้องต้นพบว่ามีภาวะความกังวลเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงให้ยาคลายเครียดและนัดติดตามอาการ, นายวีระชาติ วันทะจร ยุติธรรม จ.น่าน ได้เดินทางมารับคำร้องขอรับเงินเยียวยาไปพิจารณาให้การช่วยเหลือ และหากถูกคุดคาม ข่มขู่ สามารถยื่นขอคุ้มครองพยานได้, ขณะที่ นายธงชัย ใจดอนมูล ปลัด อบต.สันทะ อ.นาน้อย จ.น่าน ได้มาช่วยอำนวยความสะดวกด้านข้อมูลต่างๆ ให้กับหน่วยงานและส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยวันนี้นางปวีณา ได้ประสาน นายณรงวิทย์ ไผ่ผาด หัวหน้าบ้านพักเด็กฯ น่าน ให้รับตัวเด็กหญิงเพื่อนผู้เสียหายซึ่งเป็นพยานในคดีรับเข้าคุ้มครองสวัสดิภาพ เพื่อรอนัดหมายสอบสหวิชาชีพ และประสานผู้อำนวยการโรงเรียนติดตามการเรียนการสอน โดยทางโรงเรียนจะอำนวยความสะดวกให้เด้กเรียนผ่านออนไลน์เพื่อให้จบชั้นป.6 ทันเพื่อน

 

พ.ต.อ.ถาวร เต็มสวัสดิ์ ผกก.สภ.นาน้อย กล่าวว่า คดีนี้ผู้กระทำผิดที่เด็กหญิงผู้เสียหายยืนยันว่าร่วมกันข่มขืน 1 ใน 5 คนมีอายุ 18 ปี 1 เดือน วานนี้ 19 ม.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับและจับกุมตัวมาแจ้งข้อหา กระทำความผิดฐานร่วมกันพาและพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากผู้ปกครองและกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งจากการสอบสวนได้ให้การปฏิเสธ และขอให้การชั้นศาล ซึ่งจะคุมตัวไปฝากขังศาลวันพรุ่งนี้ 21 ม.ค. ในส่วนผู้กระทำผิดรายอื่นซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนในต.สันทะ อ.นาน้อย และเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยมีอายุน้อยสุด 14 ปีร่วมก่อเหตุ ตอนนี้รู้รายชื่ออีก 8 คนที่ร่วมก่อเหตุแล้วแต่ด้วยรายชื่อที่ได้มาเป็นชื่อเล่น จึงทำให้การติดตามตัวล่าช้า โดยจะเร่งติดตามตัวมาทำการสอบสวนร่วมกับทีมสหวิชาชีพต่อไป



 สำหรับเคสนี้ สืบเนื่องจาก วันนี้ 17 ม.ค.68 เวลา 16.00 น. แม่และครอบครัวพาลูกสาววัย 13 ปี เดินทางมาจากจ.น่าน ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี โดยแจ้งว่า ลูกสาวถูกกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคนอายุระหว่าง 14-18 ปี ล่อลวงไปที่โฮมสเตย์แห่งหนึ่งในอ.นาน้อย จ.น่าน พยายามจะมอมเหล้ารุมโทรมแต่ลูกสาวขัดขืนวิ่งหนีจนถูกหินบาดเท้าก่อนถูกฉุดลากตัวเข้าไปในห้องพักโฮมสเตย์ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นสิบกว่าคนจะช่วยกันจับขึงพืดผลัดกันรุมโทรม เหตุเกิดคืนวันที่ 26 ธ.ค.67

 

คืนนั้นแม่สงสัยว่าทำไมลูกสาวไม่กลับบ้านทั้งที่ขออนุญาตไปบ้านเพื่อนเพื่อซ้อมเต้นเพื่อจะไปโชว์ในงานปีใหม่ จนเช้าแม่จึงไปตามที่บ้านเพื่อนลูกสาวก่อนจะรับตัวน้องกลับมาบ้าน ซึ่งลูกสาวมีอาการเซื่องซึมไม่พูดจา เหมือนจะไม่มีแรงเดินและเดินล้ม แม่สงสัยว่าลูกเป็นอะไรแต่ลูกอ้างว่าเจ็บขาเพราะหกล้ม วันที่ 31 ธ.ค.67 หลังผ่านไป 5 วัน ลูกสาวยังผิดปกติเดินไม่ไหวเซื่องซึมลงทุกวัน แม่จึงเค้นถามจนลูกยอมบอกว่า ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมโทรมที่รีสอร์ท



 

โดยลูกสาวบอกว่า หลังซ้อมเต้นกับเพื่อนผู้หญิงรวม 4 คน เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งได้ชวนไปหาแฟนซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุที่รีสอร์ท เมื่อไปถึงพบกลุ่มชายวัยรุ่นสิบกว่าคนที่ไม่รู้จักนั่งก่อกองไฟล้อมวงกินเหล้าอยู่ข้างโฮมสเตย์ จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นชายได้พยายามจะมอมเหล้าลูกสาว แต่ลูกสาวปฏิเสธก็ถูกคะยั้นคะยอกึ่งบังคับแล้วดื่มไปนิดเดียว พอจะลุกหนีพวกผู้ชายก็เข้ามากอดและล็อกคอฉุดลากเข้าไปในห้องพักโฮมสเตย์ทั้งสิบกว่าคน ลูกสาวดิ้นสู้วิ่งหนีออกมาได้ก็ถูกจับเข้าไปในห้องที่ 2 อีกครั้ง โดยวัยรุ่นชายสิบกว่าคนช่วยกันจับแขนจับขาขึงพืดให้ลูกนอนบนเตียงไม่ให้ดิ้นแล้วผลัดกันลงมือข่มขืนที่ละคนจนสำเร็จความใคร่

 

ลูกสาวจำหน้ากลุ่มที่ก่อเหตุได้เกือบทั้งหมดสิบกว่าคนแต่รู้ชื่อเพียง 5 คน และมีพยานคือเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่เคาะประตูเพื่อช่วยเหลือออกมาจากห้อง แต่กลุ่มที่ก่อเหตุไม่ยอมเปิดประตู และมีวัยรุ่นชายอีกหลายคนที่ยังอยู่ในวงเหล้าคอยดูต้นทาง เพื่อนผู้หญิงจึงรอจนลูกสาวถูกปล่อยจึงรับกลับบ้าน แม่พาลูกสาวเข้าแจ้งความแล้วที่สภ.นาน้อย วันที่ 31 ธ.ค.67 แต่เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะกลุ่มวัยรุ่นชายที่ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นลูกหลานผู้ใหญ่บ้านซึ่งมีอิทธิพลในพื้นที่ จึงมาร้องขอความเป็นธรรมจากมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีเอาผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมาย

 

ปู่ของเด็กหญิงผู้เสียหาย กล่าวว่า ลูกสะใภ้เป็ยนแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะลูกชายตนเองไม่อยู่ ปี่จึงต้องดุแลทั้งลูกสะใภ้และหลาน ปู่สงสัยว่าทำไมโฮมสเตย์ดังกล่าวจึงปล่อยให้เด็กสามารถไปเปิดห้องพักได้ถึง 2 ห้องมั่วสุมกันและก่อเหตุแบบนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนที่ร่วมกันก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีให้หมดเพื่อเป็นตัวอย่างไม่ให้ใครกล้าทำแบบนี้อีก

 

หลังรับเรื่องนางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.ถาวร เต็มสวัสดิ์ ผกก.สภ.นาน้อย เพื่อเร่งดำเนินคดีจับกุมผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมาย และสอบสหวิชาชีพเยาวชนชาย 5 คนที่ร่วมก่อเหตุ ซึ่งผู้เสียหายได้ให้ชื่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วเพื่อจะได้ขยายผลไปถึงผู้ร่วมก่อเหตุรายอื่นๆ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยวันจันทร์ที่ 20 ม.ค.นี้ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาแม่และปู่พร้อมทั้งลูกสาวไปพบ พ.ต.อ.ถาวร เต็มสวัสดิ์ ผกก.สภ.นาน้อย เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด

 

นางปวีณา กล่าวว่า ขณะนี้เคสข่มขืนกระทำชำเราเกิดขึ้นเยอะมาก นอกจากเคสนี้แล้ว วันนี้มูลนิธิปวีณาฯ ยังได้ประสาน พ.ต.อ.จักรพงศ์ ตราบดี ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม จับกุมพ่อแท้ๆ ข่มขืนลูกสาวอายุ 13 ปี ซึ่งเป็นเด็กสมาธิสั้น และยังมีเคสที่นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.ชัยพงษ์ แสงพงษ์ชัย ผกก.สภ.ปลวกแดง ออกหมายจับแล้ว เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ข่มขืนเด็กหญิง 3 ขวบ ซึ่งพ่อเป็นพ่อค้าตลาดนัดปล่อยลูกสาววิ่งเล่นถูก รปภ.ล่อลวงไปในรถและล่วงละเมิดทางเพศ วันนี้สังคมน่าห่วงใยอย่างยิ่ง จึงอยากเตือนภัยให้พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ปล่อยพระละเลย หรืออย่าปล่อยให้ลูกไปที่ไหนนานๆ เพราะไว้ใจใครไม่ได้ เพราะอาจจะเกิดเหตุร้ายขึ้นได้ส่วนพวกที่เป็นภัยต่อสังคมก็ต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดอย่าปล่อยให้ลอยนวล




 

ข่าวที่สื่อนำเสนอ ดังนี้

 

Commentaires


bottom of page