top of page

“ปวีณา” พาตัวแทนเหยื่อถูกหลอกเทรดหุ้นปลอม 12 รายจาก 70 ราย พบ “รมว.ดีอีเอส”

  • รูปภาพนักเขียน: ทีมงานมูลนิธิปวีณาฯ
    ทีมงานมูลนิธิปวีณาฯ
  • 29 ม.ค. 2567
  • ยาว 2 นาที

อัปเดตเมื่อ 3 ก.พ. 2567

กรุงเทพฯ “ปวีณา” พาตัวแทนเหยื่อถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้นปลอม 12 ราย จากกว่า 70 ราย  พบ “รมว.ประเสริฐ” กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประชุมร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินคดีและหาแนวทางช่วยเหลือเหยื่อผู้เสียหายรวมมูลค่ากว่า 91 ล้านบาท



กรุงเทพฯ  วันที่ 25 ม.ค. ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พาตัวแทนผู้เสียหายถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้นทั้งในและต่างประเทศ ผู้เสียหายทั้งหมดกว่า 70 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 91 ล้านบาท เข้าพบ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นตำรวจไซเบอร์ ตำรวจกองปราบปราม เร่งดำเนินคดีและหาแนวทางช่วยเหลือเหยื่อผู้เสียหาย พร้อมทั้งหามาตรการกวาดล้างกระบวนการอาชญากรรมทางออนไลน์ที่เป็นภัยร้ายแรงของชาติให้หมดสิ้นไป

 

สืบเนื่องจากกลุ่มผู้เสียหายได้รวมตัวกันเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา ตั้งแต่วันที่ 17-24 ม.ค. 67 มีตัวเลขความเสียหายกว่า 91 ล้านบาท จำนวนกว่า 70 ราย ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนหน้าใหม่ไม่มีประสบการณ์ในตลาดหุ้นจึงถูกชักชวนทางเฟซบุ๊ก ติ๊กต๊อก ไอจี ทวิตเตอร์ ต่างๆ ให้เข้าศึกษาเรื่องการเทรดหุ้น โดยใช้รูปของเหล่า อาจารย์ ที่มีชื่อเสียงในวงการตลาดหุ้นไทยมาหลอกลวง และแนะนำให้เปิด พอร์ต การลงทุนกับโบกเกอร์ปลอม โดยจะมีบุคคลที่อ้างเป็นผู้ช่วยอาจารย์ให้ซื้อ-ขายหุ้นตามคำชี้แนะ ให้โอนเงินเข้าบัญชีของโบกเกอร์ปลอมเพื่อนำไปซื้อหุ้นเหยื่อจะหลงเชื่อเนื่องจากตรวจสอบแล้วหุ้นดังกล่าวมีการปรับตัวตามภาวะตลาดจริง แต่เมื่อเหยื่อจะทำการถอนเงินลงทุนก็ไม่สามารถถอนได้จึงรู้ว่าถูกหลอก ซึ่งเป็นที่น่าเป็นห่วงว่าปัจจุบันนี้ยังมีการประชาสัมพันธ์โฆษณาชวนเชื่อจัดการอบรมสัมมนาจากขบวนการหลอกลวงอยู่ในโซเชียลอย่างแพร่หลาย โดยเป็นลักษณะของบริษัทที่ตั้งขึ้นเพื่อการหลอกลวงเกี่ยวกับการลงทุนเทรดหุ้นปลอมทั้งระบบ

 

นางปวีณา กล่าวขอบคุณ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้  เรื่องนี้ถือเป็นอาชญากรรมออนไลน์ที่ร้ายแรงสร้างความเสียหายทั่วโลก ผู้ตกเป็นเหยื่อสูญเงินจำนวนมหาศาล บางคนต้องกู้เงิน ขายบ้าน เอาบ้านที่ดินไปจำนอง ขายทรัพย์สินเอาเงินมาลงทุนจนหมดตัว หลังเจอปัญหาหลายคนไม่มีเงินให้ลูกเรียน เครียดหนัก จนเป็นโรคซึมเศร้า นอนไม่หลับ คิดฆ่าตัวตาย จึงขอเรียนเสนอ รัฐมนตรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เพื่อมอบนโยบายดังนี้

(1.) ดำเนินการกวาดล้างแก๊งมิจฉาชีพ อาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบให้หมดสิ้นไป 

(2.) ขอให้รัฐบาลได้ประชาสัมพันธ์เตือนภัยให้ความรู้กับประชาชนถึงพฤติกรรมอาชญากรรมออนไลน์ ให้เข้าถึงประชาชนเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์อีกต่อไป

(3.) ขอมอบเอกสาร เหยื่อผู้เสียหายกว่า 70 ราย ให้ท่านรัฐมนตรี ประเสริฐ ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามคดีและให้ความช่วยเหลือตามที่ผู้เสียหายร้องขอต่อไป

4.ขอให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอนายกรัฐมนตรี ให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกันโดยเฉพาะ กสทช. ประชาสัมพันธ์เพื่อไม่ให้ประชาชนไม่หลงเชื่อ พฤติกรรมอาชญากรรมออนไลน์



 

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ขอบคุณ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ที่ได้พาผู้เสียหายมาขอความช่วยเหลือ โดยทางกระทรวงดิจิตอลจะจับมือร่วมการทำงานกับมูลนิธิปวีณาฯ ในการช่วยเหลือประชาชน หลังรับเรื่องวันนี้ได้ส่งมอบข้อมูลให้กับ พล.ต.ต.มณเฑียร พันธ์อิ่ม รอง ผบช.สอท. เพื่อนำไปสอบสวนผู้เสียหายเพิ่มเติมและเช็คเส้นทางการเงินบัญชีม้าและจะประสานธนาคารแห่งประเทศไทยในการตรวจสอบบัญชีโดยเร็ว และจะนำเสนอนายกรัฐมนตรีเพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันแก้ปัญหา

 

ส่วนกรณีแพลตฟอร์มต่างๆ ที่มีการโฆษณาหลอกลวงประชาชนยอมรับว่ามีมากจริงๆ ทางกระทรวงดิจิทัลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุมกับทางเฟซบุ๊กอยู่ตลอดในการบล็อกโฆษณาเหล่านี้ โดยทราบว่ากลุ่มมิจฉาชีพมีการทำโฆษณาเปลี่ยนหน้าตารูปแบบอยู่ตลอดเพื่อให้ AI จับไม่ได้และก็ซื้อโฆษณาเข้ามาอีก ซึ่งทางแพลตฟอร์มต้องเพิ่มข้อมูลในการตรวจจับมากขึ้นและทางกระทรวงดิจิทัลต้องประชุมขันน็อตอยู่ตลอด


 

ข้อมูลรายละเอียด

วันนี้ นางปวีณา พาตัวแทนผู้เสียหาย 12 ราย จาก 70 ราย เข้าพบรัฐมนตรีประเสริฐ ประชุมร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินคดีและหาแนวทางช่วยเหลือเหยื่อผู้เสียหายกว่า 70 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 91 ล้านบาท พร้อมทั้งหามาตรการกวาดล้างกระบวนการอาชญากรรมทางออนไลน์ที่เป็นภัยร้ายแรงของชาติให้หมดสิ้นไป

 

ตัวอย่างผู้เสียหาย 2 ราย ให้รายละเอียดดังนี้

1.น.ส.เอ (นามสมมุติ) และผู้เสียหายสูญเงินไปกว่า 8 ล้านบาท ได้ให้ข้อมูลว่า มีความสนใจเรื่องการลงทุนเทรดหุ้นอยู่แล้วและได้พบเห็นโฆษณาสอนการลงทุนเทรดหุ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยอาจารย์ชื่อดัง และนักลงทุนที่มีชื่อเสียงเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทยในโซเชียล ทั้งในเฟซบุ๊ก ติ๊กต็อก ไอจี ทวิสเตอร์ บางรายมีการเก็บค่าลงทะเบียน แต่บางรายอ้างว่าขอแบ่ง 18 เปอร์เซ็นต์ให้อาจารย์ผู้สอนหลังมีกำไร

 

ส่วนพฤติกรรมการหลอกลวงจะสร้างความน่าเชื่อถือ โดยกลุ่มมิจฉาชีพจะสร้างหน้าพอร์ตปลอมขึ้นมาให้เหมือนแอปพลิเคชันและให้ผู้เสียหายกดลิงก์โหลดเข้าในมือถือ ดูความเคลื่อนไหวของหุ้นซึ่งเป็นของจริง แต่การโอนเงินไปลงทุนเป็นการโอนเข้าบัญชีม้า และไม่มีการซื้อหุ้นจริง ผู้เสียหายจะเห็นตัวเลขเงินลงทุนและกำไร แต่ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ เมื่อตรวจสอบพบว่าชื่อบัญชีที่โอนเงินไปลงทุนมีหลายแพลตฟอร์ม ปลายทางเป็นชื่อบริษัท และชื่อเจ้าของบัญชีเดียวกัน มีความเชื่อมโยงกัน จึงเชื่อว่าจะเป็นเครือข่ายเดียวกัน ทำเป็นขบวนการ ขณะที่ผู้เสียหายแต่ละคนสูญเงินไปจำนวนมาก ตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้าน บางคนสูงสุด 8-12 ล้านบาท รวมผู้เสียหาย 70 ราย เสียหายกว่า 91 ล้านบาท

 

2.น.ส.บี (นามสมมุติ)  อายุ 50 ปี อาชีพทำธุรกิจส่วนตัว 1 ในผู้เสียหาย ผู้สูญเงินไปเกือบ 2 ล้านบาท กล่าวว่า ตนเองมีความสนใจในการลงทุนเทรดหุ้น และสามีเพิ่งเกษียณจากการทำงานได้เงินมาก้อนหนึ่งจึงอยากลงทุนเพื่อหารายได้ ต่อมาช่วงปลายเดือนส.ค.66 ได้พบเพจเฟซบุ๊กสอนลงทุนซื้อหุ้นฮ่องกงฟรี โดยมีโปร์ไฟล์เป็นรูปเซียนหุ้น ชื่อดังเกี่ยวกับการลงทุนคนหนึ่ง จึงกดเข้าไปทางแอดมินให้แอดไลน์กลุ่มซึ่งมีสมาชิกในห้องเรียน 50 คน มีการส่ง E-book มาให้ศึกษา และใช้ข้อความสอนทางไลน์อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ซึ่งการสอนจะไม่มีค่าลงทะเบียน



 

ตลอดเวลาจะมีสมาชิกในกลุ่มไลน์โน้มน้าวว่าหุ้นตัวนั้นตัวนี้ดีน่าลงทุน จากนั้นจะมีคนที่อ้างตัวเป็นอาจารย์แนะนำคอนแทคให้เป็นโปรกเกอร์และให้แอดไลน์คุยกันพร้อมกดลิงก์โหลดแอปพลิเคชันที่เป็นรูปตัว T ในแอปฯ จะสามารถดูหน้าพอร์ต ดูการเคลื่อนไหวของหุ้น และจำนวนเงินเข้าออกเป็นเรียลไทม์ ทำให้ดูน่าเชื่อถือ และอาจารย์จะคอยบอกให้ลงทุนหุ้นตัวที่แนะนำ ซึ่งก็มีกำไรจริง และเคยถอนเงินได้จริง

 

แต่พอถอนได้ไม่นานสมาชิกในกลุ่มไลน์ซึ่งคาดว่าจะเป็นหน้าม้าก็จะบอกให้รีบลงทุนหุ้นตัวต่อไปอีก จากลงทุนทีละแสนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะถูกชักจูงให้ซื้อหุ้นตัวอื่นตลอดเวลา จนตัวเลขในบัญชีมีเงินถึง 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินทุน 1.6 ล้านบาท จึงมีความคิดว่าจะถอนเงินออกมา แต่สุดท้ายก็ถอนไม่ได้ และรู้สึกผิดสังเกตว่าทำไมในกลุ่มไลน์สมาชิกทุกคนต่างออกจากกลุ่มกันหมด และบัญชีที่โอนเงินลงทุนไปแต่ละครั้งจะเปลี่ยนชื่อไปตลอดเวลา

 

นอกจากนี้ตนยังได้ไปสอบถามที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่อาจารย์เคยบอกว่าจะมีการจัดสัมมนาในอีก 2 เดือนข้างหน้า ปรากฎว่าไม่มีจริง ระหว่างนั้นก็ได้เจอผู้เสียหายรายอื่นๆ ไปสอบถามที่โรงแรมเช่นเดียวกันจึงรู้ว่าถูกหลอกแน่แล้ว ตนจึงได้ไปแจ้งความที่สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ก่อนจะรวมตัวกับผู้เสียหายรายอื่นๆ ตั้งกลุ่มไลน์เพื่อรวบรวมข้อมูลเข้าร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ   



โดยในวันนี้  น.ส.เอ , น.ส.บี  (นามสมมุติ) ตัวแทนผู้เสียหายได้ขอเสนอความช่วยเหลือดังนี้

(1.)ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ตรวจสอบการโอนเงินระหว่างประเทศของบริษัทที่ตั้งขึ้นมาในหลอกลวงเพื่อการลงทุนเทรดหุ้นที่เชื่อว่ามีการนำเงินที่ถูกหลอกไปลงทุนต่อในตลาดคริปโต บิทคอยน์ ในต่างประเทศเพื่อการฟอกเงินสีเทาให้ถูกกฎหมาย

(2.) ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย กวดขันการเปิดบัญชีของมิจฉาชีพที่ถูกอายัดแล้ว ไม่ให้เปิดใหม่ได้อีก

(3.)ขอให้ทุกธนาคาร ส่งเอกสารหลักฐานเส้นทางการเงินให้กับสถานีตำรวจที่รับแจ้งความ เพื่อประกอบสำนวนคดีได้อย่างรวดเร็ว

(4.)ขอให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมมีการตรวจสอบการซื้อโฆษณาในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับการชักชวนให้ลงทุน แอบอ้างเป็นหน่วยงานต่างๆ และแอบอ้างผู้มีชื่อเสียงในสังคม

 

วันนี้นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ร่วมประชุมกับ นายประเสริฐ จันทรรวงทองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  พล.ต.ต.มณเฑียร พันธ์อิ่ม รอง ผบช.สอท. นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายวัลลภ รุจิรากร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ต.อ.ไพโรจน์ หมื่นกล้าหาญ รอง ผบก.ตอท. เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือกลุ่มผู้เสียหายและหามาตรการป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อกลุ่มวิชาชีพ

 

จากนั้นนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้มอบเอกสาร 2 ชุด ซึ่งเป็นข้อมูลของผู้เสียหาย 70 กว่าราย ให้กับ นายประเสริฐ จันทรรวงทองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ส่วนอีกชุดเพื่อให้นายประเสริฐมอบให้กับ พล.ต.ต.มณเฑียร พันธ์อิ่ม รอง ผบช.สอท. ขยายผลและทำการสอบสวนผู้เสียหายเพิ่มเติมพร้อมกับเช็คเส้นทางการเงินของกลุ่มมิจฉาชีพ




ข่าวที่สื่อนำเสนอ

  • “ปวีณา”พาผู้เสียหายบุก “ดีอี” ยื่นหนังสือ “ประเสริฐ” เร่งแก้อาชญากรรมออนไลน์ สร้างความเดือดร้อนให้ปชช. https://www.dailynews.co.th/news/3114771/

  • ‘ปวีณา’พาเหยื่อถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น พบ รมว.ดีอี หลังถูกหลอกเสียหายเกือบร้อยล้านบาท https://www.77kaoded.com/news/kitdanai/2525917

  • ข่าวทำเนียบรัฐบาล > รมว.ดีอี ให้ความมั่นใจปราบอาชญากรรมออนไลน์ หลังปวีณาพาเหยื่อเข้าพบสูญ 91 ลบ. https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/7797

คลิปข่าวที่สื่อ รายงาน







36 Comments


foyitor
5 วันที่แล้ว

That is the excellent mindset, nonetheless is just not help to make every sence whatsoever preaching about that mather. Virtually any method many thanks in addition to i had endeavor to promote your own article in to delicius nevertheless it is apparently a dilemma using your information sites can you please recheck the idea. thanks once more 세븐토토

Like

Guest
Jul 01

This is such a great resource that you are providing and you give it away for free...zonnescherm

Like

토토사이트
Jul 01

토토사이트 i am for the first time here. I found this board and I in finding It truly helpful & it helped me out a lot. I hope to present something back and help others such as you helped me

Like

Guest
Jul 01

This article was written by a real thinking writer.I agree many of the with the solid points made by the writer. 세븐카지노

Like

オンカジ 入金不要ボーナス
Jul 01

オンカジ 入金不要ボーナス For many people this is important, so check out my profile:

Like
bottom of page