กำแพงเพชร แม่ใจสลายร้อง "ปวีณา" สูญเสียลูกในท้อง 7 เดือน หลังรพ.ให้ยายับยั้งการคลอดก่อนกำหนด สงสัยสาเหตุการเสียชีวิต
- ทีมงานมูลนิธิปวีณาฯ
- 7 วันที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที

ที่มูลนิธิปวีณาฯ 30 เม.ย. 68 เวลา 11:00 น. แม่ใจสลายเดินทางจาก จ.กำแพงเพชร เข้าร้อง "ปวีณา" สูญเสียลูกในท้อง 7 เดือน ก่อนหน้านี้ ปวดท้องเหมือนจะคลอดลูก จึงไป รพ.อำเภอ ที่ได้ฝากครรภ์ฉีดยาและกินยายับยั้งการคลอด วันรุ่งขึ้น รพ. ส่งต่อไป รพ.ที่2 ฉีดยาและกินยายับยั้งการคลอดอีก ต่อมาวันที่ 23 เม.ย. 68 ส่งมา รพ.ที่ 3 ใน จ.นครสวรรค์ หมออัลตร้าซาวด์บอกลูกเสียชีวิตแล้ว ตนช๊อคและเสียใจมาก และได้ถูกส่งมาอีก รพ.ที่4 เพื่อเหน็บยาให้ลูกที่เสียชีวิตในท้อง 3 วันคลอดออกมาโดยไร้วิญญาณ ซึ่งนางปวีณา ประสาน พ.ต.อ.นนทวร สีอินทร์ ผกก.สภ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร พ.ต.ท.ไพโรจน์ อินทะศรรอง รอง ผกก.สอบสวน สภ.ขาณุวรลักษบุรี ให้แม่ไปพบเพื่อขอให้ส่งศพทารกมาชันสูตร และได้รับความอนุเคราะห์รถตำรวจ สภ.ขาณุวรลักษบุรี นำศพทารกส่งมาชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เมื่อเช้าตรู่วันนี้ โดยมูลนิธิปวีณาฯ ได้ช่วยเหลือค่าน้ำมันรถ และนางปวีณา ได้โทรประสาน นพ.ปริญญา นากปุณบุตร สสจ.กำแพงเพชร ทันที เพื่อเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะประสานโดยจะเสนอเรื่องให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข โดยยื่นเรื่องผ่าน ดร.ธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ ผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข เพื่อให้ความช่วยเหลือ ตรวจสอบพร้อมประสาน พมจ. กำแพงเพชร เข้าเยี่ยมครอบครัว โดยทางมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดให้ได้รับความกระจ่างและความเป็นธรรม

สืบเนื่องจากวันที่ 25 เม.ย. 68 นางนิด (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี แม่ที่เพิ่งสูญเสียลูกในครรภ์ 7 เดือน ได้โทรศัพท์สายด่วน 1134 มูลนิธิปวีณาฯขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า ครั้งนี้ตนตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3 เป็นทารกเพศหญิง อายุครรภ์ 7 เดือน ที่ผ่านมาตนได้ฝากครรภ์ที่ รพ.อำเภอ และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งลูกในครรภ์ก็ปกติ โดยมีกำหนดคลอดในเดือนมิ.ย.68 จู่ๆ เช้าวันที่ 17 เม.ย.68 ตนตื่นมารู้สึกมีอาการท้องปั้นแข็งเหมือนจะคลอด จึงได้ไปหาหมอที่ รพ.อำเภอ พยาบาลแจ้งว่าเด็กจะออกก่อนกำหนดแต่อายุครรภ์ยังไม่ครบ จึงจะต้องฉีดยาและกินยาเพื่อยับยั้งการคลอดไปก่อน โดยฉีดยาเข้าที่สะโพกขวา 2 เข็ม ในเวลาห่างกันครึ่งชั่วโมง และให้กินยาอีก 4 เม็ด ในเวลาห่างกันทุกครึ่งชั่วโมง หลังจากได้รับยาฉีดยากินไปตนรู้สึกมีอาการใจสั่นและมีเหงื่อออกมือออกเท้า จึงนอนดูอาการ 1 คืน

เช้าวันที่ 18 เม.ย.68 อาการท้องปั้นแข็งยังไม่หาย หมอจึงได้ส่งต่อไปที่ รพ.ที่ 2 ก็ได้รับการฉีดยายับยั้งการคลอดอีก 2 เข็มเข้าที่สะโพกขวาในเวลาที่ห่างกันครึ่งชั่วโมง และให้กินยาอีก 3 เม็ด (ห่างกัน 8 ชั่วโมง) ซึ่งหลังจากได้รับยาไปตนรู้สึกมีอาการใจสั่น จึงให้นอนดูอาการ 2 คืน เช้าวันที่ 20 เม.ย.68 หมอจึงให้กลับบ้านได้ พร้อมกับทำใบส่งตัวให้ตนไปพบหมอที่รพ.ในจังหวัดนครสวรรค์ วันที่ 23 เม.ย.68 โดยให้เหตุผลว่าเป็นรพ.ที่มีอุปกรณ์การแพทย์ครบครันกว่า ซึ่งระหว่างที่กลับไปอยู่บ้านตนก็รู้สึกว่าลูกในท้องดิ้นน้อยลง

ต่อมา เช้าวันที่ 23 เม.ย.68 ตนไปพบหมอที่ รพ.ในจังหวัดนครสวรรค์ ตามนัด หมอได้ทำการอัลตร้าซาวดูเด็กในครรภ์ แล้วบอกว่า "ลูกเสียชีวิตแล้ว แม่รู้ไหม?" ตนถึงกับช็อกใจแม่แทบสลายสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไร จากนั้นตนก็ถูกส่งตัวไปที่ รพ.ในอำเภอขาณุวรลักบุรี จ.กำแพงเพชร เพื่อคลอดลูกที่เสียชีวิตแล้ว วันที่ 25 เม.ย.68 หมอให้เหน็บยาเร่งคลอด 2 ครั้ง และลูกก็คลอดออกมาในค่ำของวันที่ 26 เม.ย.68 ระหว่างที่ตนนอนพักอยู่ในรพ. ด้วยความเศร้าและทุกข์ใจมากจึงติดต่อมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ขอให้ตรวจสอบการเสียชีวิตลูกของตนด้วยว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่

หลังรับเรื่องวันที่ 25 เม.ย.68 นางปวีณา ได้โทรประสาน นพ.ปริญญา นากปุณบุตร สสจ.กำแพงเพชร ทันที เพื่อขอให้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงขณะที่นางนิดยังนอนรอคลอดลูกที่เสียชีวิตอยู่ในท้อง 3 วัน ในรพ.ที่ 4 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของสสจ.กำแพงเพชรติดต่อเข้าไปเยี่ยมนางนิดแล้ว กระทั่งวันที่ 28 เม.ย. 68 นางนิดได้ออกจาก รพ. นางปวีณา จึงได้ประสาน พ.ต.อ.นนทวร สีอินทร์ ผกก.สภ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร พ.ต.ท.ไพโรจน์ อินทะศรรอง รอง ผกก.สอบสวน สภ.ขาณุวรลักษบุรี ให้แม่ไปพบ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อนุเคราะห์รถตำรวจนำศพมาชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ มูลนิธิปวีณาฯ ได้ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายค่าน้ำมันรถ และจะประสานเสนอเรื่องให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข โดยยื่นเรื่องผ่าน ดร.ธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ ผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข เพื่อให้ความช่วยเหลือตรวจสอบให้ความเป็นธรรมกับกับครอบครัวนางนิด พร้อมประสาน นางสาวมะลิวัน สิทธิโยธี พมจ.กำแพงเพชร เข้าเยี่ยมครอบครัว โดยทางมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามเรื่องอย่างใกล้ชิดให้นางนิดและครอบครัวได้รับความกระจ่างและความเป็นธรรม และมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือร่วมกับ สสจ.กำแพงเพชร และ พมจ.กำแพงเพชร ต่อไป.

ขอบคุณสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าว
Comments